สนพ. ปรับตัวเลขคาดการณ์ปี 63 ใหม่ น้ำมันสำเร็จรูป ลด 6.3% น้ำมันเครื่องบิน ปรับลดลงมากที่สุด 12.7% บนสมมุติฐานโควิด-19 คลี่คลาย ไตรมาส 4
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) สรุปภาพรวมสถานการณ์พลังงานในไตรมาสแรกของปี 2563 การใช้พลังงานขั้นต้นของประเทศ ลดลง 3.5% ทั้งน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ
สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ว่าจะขยายตัวประมาณ 1.5-2.5% ชะลอตัวลงจากปีก่อน ปัจจัยที่กระทบ มี 3 เรื่องสำคัญ ดังนี้
1. การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
2. ปัญหาภัยแล้ง
3. ความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายรัฐบาล
ในส่วนของพลังงานขั้นสุดท้าย ลดลง 3.9% เป็นการลดลงของการใช้น้ำมันสำเร็จรูป เกือบทุกประเภท โดยเฉพาะการใช้น้ำมันเครื่องบินลดลงถึง 16.2% จากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้หลายๆประเทศต้องปิดประเทศ และหลายสายการบิน ประกาศหยุดให้บริการ เส้นทางบินระหว่างประเทศ โดยในไตรมาสแรกของปี 2563 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพียง 6.7 ล้านคน ลดลง 38%
ส่วนก๊าซธรรมชาติ ลดลงในทุกสาขา โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) ลดลงถึง 16.1% จากการที่ผู้ใช้รถยนต์เอ็นจีวีบางส่วนเปลี่ยน กลับไปใช้น้ำมัน เนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศอยู่ในระดับที่ต่ำมาก
นอกจากนี้การระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาด้านการขนส่งสินค้า และการนำเข้าวัตถุดิบ หรือสินค้าทุนจากประเทศจีน ที่ปิดโรงงาน ทำให้การผลิตชะลอตัว รวมถึงปัญหาการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้า ที่ประสบปัญหามีผู้ติดเชื้อ ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม (มีสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าสูงสุด 45% ) มีการใช้ไฟฟ้าลดลง 1.4%
ภาคธุรกิจทั่วไป การใช้ไฟฟ้าลดลง 0.1% โดยเฉพาะ ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จากการชะลอตัวลงของนักท่องเที่ยว
ขณะที่การใช้ไฟฟ้าในภาคครัวเรือน ปรับตัวสูงขึ้นถึง 6% เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าในการทำความเย็นเพิ่มขึ้น ประกอบกับมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อาติ” เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2563 ส่งผลให้ภาพรวมการใช้ไฟฟ้าในไตรมาสแรกของปี 2563 เพิ่มขึ้น 1%
สำหรับคาดการณ์ทั้งปี 2563 สนพ.ได้ปรับคาดการณ์ใหม่ บนสมมุติฐานว่า การระบาดของโควิด-19 มีการระบาดสูงสุดในไตรมาสที่ 2 เริ่มลดลงในช่วงไตรมาสที่ 3 และกลับเข้าสู่สภาวะปกติในไตรมาสที่ 4
โดยคาดการณ์การใช้พลังงานขั้นสุดท้ายของปี 2563 ปรับตัวลดลง 6% เป็นการใช้น้ำมันสำเร็จรูป ลดลง 6.3% มีรายละเอียด ดังนี้
-ภาคขนส่ง การใช้น้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 30.2 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 5.7% การใช้น้ำมันดีเซล อยู่ที่ 45.6 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 3.7% การใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) อยู่ที่ 883,000 ตัน ลดลง 18.6% การใช้น้ำมันเครื่องบิน ปรับลดลงมากที่สุดถึง 12.7% หรือคิดเป็น 17.1 ล้านลิตรต่อวัน
– ภาคอุตสาหกรรม มีการใช้น้ำมันดีเซล ลดลง 2.4% คิดเป็น 10 ล้านลิตรต่อวัน การใช้แอลพีจี ลดลง 5% การใช้ไฟฟ้าและการใช้ถ่านหิน ลดลง 5%
– ภาคอื่นๆ ได้แก่ ภาคครัวเรือน ภาคการพาณิชย์ และภาคเกษตรกรรม คาดว่า ผลกระทบหลัก จะอยู่ที่ภาคการพาณิชย์ และภาคครัวเรือน ซึ่งผลกระทบดังกล่าวมาจากรายได้ ที่ลดลงจากการเว้นระยะห่างทางสังคม ( Social Distancing) และการล็อคดาวน์ปิดเมือง คาดว่าการใช้น้ำมันดีเซล ลดลง 3.6% การใช้แอลพีจี ลดลง 3.9% การใช้ไฟฟ้าลดลง 8.5%
ทั้งนี้ สนพ. ยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และปัจจัยอื่นๆ ที่จะส่งผลต่อการใช้พลังงานของประเทศอย่างใกล้ชิด อาทิ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ราคาก๊าซฯ มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 และมาตรการในการป้องกันโควิด-19 ทั้งใน และต่างประเทศ
- วิกฤติโควิดฉุดความต้องการใช้พลังงานดิ่ง!! ทำยอดใช้ดีเซลร่วง 12%
- ‘กรมธุรกิจพลังงาน’ เผยโควิดฉุดยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไตรมาสแรกดิ่ง!
- ‘พลังงาน’ คลอดมาตรการเยียวยา ผู้รับผลกระทบ ‘โควิด-19’ นาน 3 เดือน