นักวิจัยจีนเผยแพร่ผลการศึกษา ‘โคโรนาพันธุ์ใหม่’ อาจเกิดจากไวรัสใน ‘ตัวนิ่ม-ค้างคาว’ ผสมกัน
ผลการศึกษาจากคณะนักวิจัยของจีนที่ดำเนินการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมเชิงเปรียบเทียบ พบความเป็นไปได้ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจมีต้นกำเนิดจากการผสมกันของไวรัสในตัวนิ่มและไวรัสในค้างคาว
คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เซาท์ไชน่า (SCAU) และห้องปฏิบัติการเพื่อการเกษตรสมัยใหม่หลิ่งหนาน กว่างตง ได้เผยแพร่ผลการศึกษาดังกล่าวก่อนการตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ (Nature) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (7 พ.ค.)
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ที่ก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน มีลำดับทางพันธุกรรมเหมือนกับไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคซาร์ส (SARS) ในปี 2003 ซึ่งมีต้นกำเนิดในสัตว์ และไวรัสโคโรนาในค้างคาว (RaTG13)
“ค้างคาวอาจเป็นโฮสต์กักตุน (reservoir host) ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ต่างๆ ส่วนคำถามว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีโฮสต์อื่นๆ หรือไม่ยังคงเป็นประเด็นคลุมเครืออันน่าสงสัยต่อไป” บทความการศึกษาฉบับก่อนแก้ไขระบุ
ขณะเดียวกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งคัดแยกมาจากตัวนิ่มในมาเลเซีย มีกรดอะมิโนเหมือนกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในยีนอี เอ็ม เอ็น และเอส (E, M, N และ S) ระดับร้อยละ 100, 98.6, 97.8 และ 90.7 ตามลำดับ
“ตำแหน่งตัวรับ-ยึดเกาะ (receptor-binding domain) ภายในโปรตีนเอส (S protein) ของไวรัสโคโรนาในตัวนิ่ม มีลักษณะเหมือนกับของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แตกต่างกันตรงกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็นตัวเดียวเท่านั้น”
ผลการศึกษาเสริมว่า ไวรัสโคโรนาในตัวนิ่มถูกตรวจจับได้ในตัวนิ่มมาเลเซีย 17 ตัวจากทั้งหมด 25 ตัว ที่คณะนักวิทยาศาสตร์นำมาดำเนินการวิเคราะห์
“การคัดแยกไวรัสโคโรนาที่มีความเกี่ยวพันกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างมากในตัวนิ่ม บ่งชี้ว่าตัวนิ่มอาจมีศักยภาพเป็นโฮสต์ตัวกลาง (intermediate host) ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่”
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
- หมอศิริราช ไขรหัส ‘โควิด-19’ ระบาดจากเมืองอู่ฮั่นแน่นอน! ไม่ได้เกิดจากแล็บ ติดสู่คนผ่าน ‘ตัวนิ่ม’
- ‘สหรัฐ’ เอาจริง สั่ง ‘ซีไอเอ’ หาหลักฐาน ‘โควิด-19’ หลุดจากห้องแล็บอู่ฮั่น
- พบ ‘ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่’ เพิ่มอีก 6 ชนิด ใน ‘ค้างคาวเมียนมา’