โควิดวันนี้ 25 กุมภาพันธ์ 2565 นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 431,655,407 คน รักษาตัวหายแล้ว 360,774,969 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 5,946,856 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นมา 1,760,095 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 9,520 ราย
สถานการณ์ โควิดวันนี้ 25 กุมภาพันธ์ 2565
Worldometer เว็บไซต์รายงานข้อมูลโควิด-19 ล่าสุด ที่รวบรวมมาจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 70,885 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมล่าสุดที่ 80,446,512 ราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,823 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 969,602 มากสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ได้ปรับปรุงแนวปฏิบัติเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) โดยขยายระยะห่างของการฉีดระหว่างวัคซีนโดสแรก และโดสที่สองเป็น 8 สัปดาห์สำหรับประชาชนบางกลุ่ม จากเดิม 3 สัปดาห์ กรณีที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอนเทค และ 4 สัปดาห์กรณีที่ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา
ซีดีซี เผยว่า วัคซีนยังคงปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในช่วงเวลาเดิม ทว่าการเว้นระยะห่างให้มากขึ้นระหว่างการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอสองโดสแรก อาจลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในประชาชนบางกลุ่ม
“แม้ว่าความเสี่ยงที่แน่นอนยังคงมีให้เห็นไม่มากนัก แต่โอกาสเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจะสูงขึ้นในประชากรเพศชายอายุ 12-39 ปี และความเสี่ยงนี้อาจลดลงได้โดยการขยายระยะห่างระหว่างการฉีดวัคซีนโดสแรกและโดสที่สอง” ศูนย์ฯ กล่าวในแนวปฏิบัติที่ผ่านการปรับปรุง เมื่อวันอังคาร (22 ก.พ.) พร้อมเสริมว่า “ช่วงระยะห่าง 8 สัปดาห์ อาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับประชาชนอายุ 12 ปีขึ้นไปบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ชายอายุ 12-39 ปี”
อย่างไรก็ดี ศูนย์ฯ ระบุว่าระยะห่างเดิมระหว่างการฉีดวัคซีนโดสแรกและโดสที่สอง ยังคงเป็นช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง อายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ที่ต้องการได้รับการป้องกันจากเชื้อไวรัสฯ อย่างรวดเร็ว
ในยุโรป หลายประเทศต้องรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้นอย่างมาก โดยเยอรมนี มีผู้ติดเชื้อใหม่ 218,431 ราย รัสเซีย 132,998 ราย ฝรั่งเศส 66,732 ราย และอิตาลี 46,169 ราย
ขณะที่ การระบาดใหญ่ในแถบอเมริกาใต้ กลับมารุนแรงอีกครั้งเช่นกัน โดยบราซิล ซึ่งติดอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศที่มียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิดมากสุดในโลก พบผู้ติดเชื้อใหม่ 95,493 ราย ขณะที่ชิลี เจอผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 30,675 ราย และอาร์เจนตินาที่ 10,298 ราย
เช่นเดียวกับ สถานการณ์ระบาดในเอเชีย ที่ยังมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตุรกี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 79,708 ราย ญี่ปุ่น ที่ 77,810 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ ยังคงมีผู้ติดเชื้อใหม่สูงอยู่ที่ 170,006 ราย และเวียดนามที่ 69,128 ราย
ส่วนในอาเซียนนั้น กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดวันนี้ มีจำนวน 57,426 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 5,408,328 ราย สูงสุดในกลุ่มอาเซียน โดยมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 317 ราย ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวม 147,342 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
ทางด้าน กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 1,745 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 3,657,342 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตสะสม จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ อยู่ที่ 56,165 ราย เพิ่มขึ้น 188 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- WHO ชี้หลายประเทศ โอไมครอนยังไม่พ้นจุดระบาดสูงสุด แนะอย่าเร่งผ่อนคลาย
- ‘ไฟเซอร์’ ยื่นเรื่อง ‘อย.สหรัฐ’ ขออนุมัติใช้ฉุกเฉิน ‘วัคซีนโควิดเด็ก 6 เดือน-4 ขวบ’
- อังกฤษตรวจสอบ ‘สายพันธุ์ย่อยโอไมครอน’ เจอแล้ว 40 ประเทศทั่วโลก
