รัฐสภาฝรั่งเศสอนุมัติกฎหมายฉบับใหม่ ห้ามบุคคลที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด เข้าใช้บริการสถานที่สาธารณะ รวมถึง ร้านอาหาร และสนามกีฬา ในความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะคนไข้ล้นโรงพยาบาล ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เพราะการระบาดของ “โอไมครอน”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐสภาฝรั่งเศส มีมติผ่านร่างกฎหมาย ที่ห้ามผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข้าสถานที่สาธารณะทุกแห่ง เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยคะแนน 215 ต่อ 58 เสียง โดยการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ ล่าช้าจากกำหนดเดิมที่ตั้งใจไว้ เนื่องจากสมาชิกสภาทั้งฝ่ายซ้าย และฝ่ายขวา ขอแก้ไขเนื้อหาในกฎหมายหลายร้อยจุด
กฎหมายใหม่ดังกล่าว กำหนดให้ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน ที่ต้องการเข้าสถานที่สาธารณะทั่วประเทศ เช่น ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ รวมถึงการขึ้นรถไฟ และเที่ยวบินในประเทศ จะต้องฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเท่านั้น ไม่สามารถใช้ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ หรือเพิ่งหายจากโควิดเช่นในปัจจุบันได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ ยังกำหนดโทษปรับสถานหนักกับผู้ใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนปลอมแปลง และต้องให้ตรวจบัตรประจำตัวก่อนใช้บริการด้วย
มีเสียงวิจารณ์ว่า กฎหมายนี้ไม่น่าจะเป็นผลมากนัก เนื่องจากชาวฝรั่งเศสฉีดวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต่ำกว่า 91% แต่รัฐบาลหวังว่า กฎหมายนี้จะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อป่วยหนักที่ต้องเข้าโรงพยาบาล โดยไม่ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อีก เพราะขณะนี้หอผู้ป่วยวิกฤติมากกว่า 76% เต็มไปด้วยผู้ป่วยโควิดที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และมีผู้เสียชีวิตมากถึงวันละ 200 คน ในช่วงที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่ระบาด
สัปดาห์ที่ผ่านมาฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไม่ต่ำกว่า 2,800 คนต่อประชากร 100,000 คน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 14 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 126,900 คน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อังกฤษ’ หวั่น ‘โอไมครอน’ ระดมฉีดวัคซีนเข็ม 3 แนะทำงานอยู่บ้าน ‘ฝรั่งเศส’ บอกอาจมีเข็ม 4
- ระบาดหนัก!! ‘แคนาดา-ฝรั่งเศส’ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ‘โอไมครอน’
- แกล็กโซสมิธไคลน์ เปิดผลทดสอบเบื้องต้น ชี้ยา ‘โซโทรวิแมบ’ ต้านโอไมครอนได้