ชาวฝรั่งเศสแห่จองคิวฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากเป็นประวัติการณ์ในช่วงค่ำวานนี้ (12 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หลัง ประธานาธิบดี “เอมมานูเอล มาครง” ผู้นำประเทศ ประกาศมาตรการจำนวนหนึ่ง เพื่อผลักดันให้ประชากรที่ยังลังเลอยู่ ยอมฉีดวัคซีน
ในการแถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ที่ถ่ายทอดไปทั่วประเทศนั้น นายมาครงประกาศว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ชาวฝรั่งเศสที่ต้องการออกไปรับประทานอาหารหรือนั่งดื่ม ใช้บริการรถไฟเดินทางไกล หรือไปซื้อของตามศูนย์การค้าต่าง ๆ จะต้องแสดงหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ได้ฉีดวัคซีนมาแล้ว หรือผลการตรวจที่แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้ติดเชื้อโควิด แต่อย่างใด
มาตรการดังกล่าวที่เรียกว่า “บัตรผ่านสุขภาพ” ยังบังคับใช้ครอบคลุมถึง การเข้าร่วมงานเทศกาลต่าง ๆ โรงละคร หรือโรงภาพยนตร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่รัฐบาลฝรั่งเศสนำเข้ามาใช้ เพื่อรับมือกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมากขึ้น และเกี่ยวข้องกับการระบาดของสายพันธุ์เดลตา
“ขอให้เข้าใจว่า รัฐบาลไม่ได้บังคับให้ฉีดวัคซีนเสียทีเดียว แต่เรากำลังขยายการใช้บัตรผ่านสุขภาพอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนยยอมไปฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ความเป็นไปได้ที่ถูกตรวจในทุกมื้ออาหาร หรือการสังสรรค์นอกบ้าน สร้างผลกระทบอย่างทันทีทันใดให้กับชาวฝรั่งเศสจำนวนมากที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เห็นได้จากเว็บไซต์หลัก ๆ สำหรับการจองคิวฉีดวัคซีน ต่างรายงานถึงจำนวนผู้ที่เข้าไปยังเว็บไซต์เพิ่มสูงขึ้น
เว็บไซต์ ดอกโตลิบ (Doctolib) รายงานว่า มีการลงจองนัดหมายมากเป็นประวัติการณ์ถึง 20,000 ครั้งต่อนาที ในช่วงค่ำวานนี้ และในช่วงเช้าวันนี้ (13 ก.ค.) ทางเว็บไซต์รายงาน มียอดรวมผู้จองนัดฉีดวัคซีนเข็มแรก ผ่านทางแพลตฟอร์มเมื่อวานนี้ มากถึง 926,000 ราย
ผู้นำฝรั่งเศส ระบุด้วยว่า สำหรับการตรวจเชื้อโควิด-19 ซึ่งให้บริการฟรีอยู่ในตอนนี้ ก็จะเริ่มมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป “เพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีน แทนที่จะต้องมาตรวจกันหลายครั้ง”
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งบังคับให้บุคลากรด้านสาธารณสุข เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์คนชรา และผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับกลุ่มเปราะบาง ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ภายในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการของอีกหลายประเทศ เช่น กรีซ, อิตาลี และอังกฤษ
ทางด้าน นายโอลิวิเยร์ เวอราน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส กล่าวในเวลาต่อมา ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ไม่ฉีดวัคซีน จะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน และไม่ได้รับเงินค่าจ้างด้วย
ปัจจุบันมีชาวฝรั่งเศส 35.5 ล้านคน หรือเกินครึ่งประเทศ ที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส แต่อัตราการฉีดวัคซีนเริ่มลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคณะนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลฝรั่งเศสเตือนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (9 ก.ค.) ว่า อาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรถึง 95% เพื่อยับยั้งการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่สามารถติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนามัยโลก’ เตือน ‘สายพันธุ์เดลตา’ ระบาดทั่วโลก ด้วยความเร็วสูง
- อย.สหรัฐ เพิ่มคำเตือน วัคซีนโควิด ‘จอห์นส้นฯ’ เสี่ยง ‘ปลายเส้นประสาทอักเสบ-กล้ามเนื้ออ่อนแรง’
- จีนโต้กลับเสียงวิจารณ์ โชว์สถิติ ‘ซิโนแวค’ เป็นเลิศ!!
