เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแอฟริกาใต้ สั่งระงับใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของแอฟริกาใต้ หลังผลศึกษาแสดงให้เห็นว่า ไม่ค่อยมีผลในการป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ที่พบในประเทศ
ดร.สเวลี เอ็มคิเซ รัฐมนตรีสาธารณสุขแอฟริกาใต้ เปิดเผยว่า ได้ตัดสินใจที่จะระงับการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาไว้ก่อน จากเดิมที่จะเริ่มต้นการฉีดภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ระหว่างที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ ดำเนินการศึกษาถึง วิธีการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกา ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ระหว่างนี้ แอฟริกาใต้ จะเดินหน้าฉีดวัคซีนต้านโควิด ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ให้กับบุคลากรการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า ซึ่งจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีน ไปก่อน
ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) บ่งชี้ว่า การฉีดวัคซีนต้านโควิด ที่แอสตราเซเนกา พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด จำนวน 2 โดสนั้น ให้การป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ที่พบในแอฟริกาใต้ ได้เพียงระดับต่ำเท่านั้น
การทดสอบของมหาวิทยาลัยวิตวอเทอร์สแรนด์ ในเมืองโยฮันเนสเบิร์ก เกี่ยวกับประสิทธิภาพทางคลินิก “ในเบื้องต้น” ของวัคซีนดังกล่าว ที่มีต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “ชนิดกลายพันธุ์” แบบที่พบในแอฟริกาใต้ ชื่อ “501.V2” หรือ “B.1.351” อาศัยกลุ่มตัวอย่างประมาณ 2,000 คน และมีอายุเฉลี่ย 31 ปี พบว่า “ป้องกันได้เพียงเล็กน้อย” ในผู้ป่วยที่มีอาการเบาบาง และปานกลาง
ทั้งนี้ รัฐบาลแอฟริกาใต้รับมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา จำนวน 1 ล้านโดส จากสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘พาสปอร์ตวัคซีน’ ของต้องมี เดินทางยุค ‘โควิด’
- ‘ซื้อพาสปอร์ต’ วิถีคนรวย เดินทางข้ามชาติ ช่วง ‘โควิด’ ระบาด
- บริษัทยาอังกฤษ-เยอรมัน จับมือพัฒนา ‘วัคซีนโควิด’ รุ่นใหม่
