COVID-19

องค์กรสิทธิฯ จี้ชาติเอเชีย ช่วยแรงงานข้ามชาติ ช่วงโควิดระบาด

องค์กรสิทธิมนุษยชน เรียกร้องให้ประเทศในเอเชียเร่งช่วยเหลือ ในด้านความเป็นอยู่ของผู้ใช้แรงงานข้ามชาติ ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะยากลำบาก หลังการระบาดของโควิด-19 หลังมีรายงานว่านายจ้างในบางประเทศ ใช้วิธีกักขัง และทอดทิ้งแรงงานข้ามชาติเหล่านี้ เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานสถานการณ์ของกลุ่มผู้ใช้แรงงานข้ามชาติในหลายประเทศของเอเชียที่กำลังตกอยู่ในสภาวะยากลำบากอย่างมาก หลังการกลับมาระบาดใหญ่อีกครั้งของโรคโควิด-19

labb

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คนงานชาวเมียนมากว่าสิบคน ถูกนายจ้างนำมาทิ้งไว้ริมถนน ที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังทางการไทยมีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ เข้าออกจากบางพื้นที่ เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ขณะที่ในสิงคโปร์ แรงงานข้ามชาติจำนวนมาก ยังถูกจำกัดบริเวณให้อยู่แต่ภายในหอพักคนงาน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แม้ในสถานการณ์ปัจจุบันสิงคโปร์ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดลงบ้างแล้ว

นายฟิล โรเบิร์ตสัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคเอเชีย องค์กรด้านสิทธิมนุษชน “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” กล่าวว่า เห็นได้ชัดเจนว่าทั้งรัฐบาล และนายจ้าง ต่างปฏิบัติต่อคนงานข้ามชาติ แบบพลเมืองชั้นสอง เพราะแทนที่รัฐบาลจะเข้ามาจัดการกับการระบาด และตรวจหาผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน แต่กลับทำในลักษณะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิ และปฏิบัติต่อกลุ่มแรงงานเหล่านี้ในลักษณะที่แตกต่างจากพลเมืองของประเทศ

ก่อนหน้านี้ทางการ สิงคโปร์ พบรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่พักอยู่ในหอพักคนงานทางตอนใต้ของเกาะสิงคโปร์ ราว 320,000 คน โดยรัฐบาลสิงคโปร์รับปากว่า จะสร้างหอพักคนงานแห่งใหม่ ที่จะยกระดับมาตรฐานให้มีความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

แต่จนถึงขณะนี้ คนงานส่วนใหญ่ยังคงถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ภายในหอพัก ยกเว้นผู้ได้รับอนุญาตให้ออกนอกบริเวณชั่วคราว หรือ มีบางคนที่ได้รับอนุญาตออกข้างนอกได้เพียงเดือนละหนึ่งครั้ง ขณะที่ในต้นปี 2564 จะมีเงื่อนไขให้สวมอุปกรณ์ติดตาม และต้องได้รับการตรวจเชื้อบ่อยครั้งขึ้น

เงื่อนไขนี้ทำให้เกิดเสียงคัดค้านจากกลุ่มตัวแทนองค์กรผู้ใช้แรงงานในสิงคโปร์

นายอเล็กซ์ อู รองประธานองค์กรที่ดูแลด้านสิทธิของแรงงานชั่วคราวในสิงคโปร์ วิจารณ์มาตรการของรัฐบาลสิงคโปร์ว่า ไม่เหมาะสม และไม่เคารพต่อสิทธิของกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ที่เข้มงวด และมีข้อห้ามต่าง ๆ มากจนเกินไป

เขาอ้างด้วยว่า คนงานข้ามชาติมากกว่าครึ่งหนึ่ง ที่เคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากตัวเลขของทางการ ต่างมีภูมิคุ้มกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งส่วนใหญ่ยังได้รับการตรวจหาเชื้อบ่อยกว่าชาวสิงคโปร์ทั่วไป ซึ่งสะท้อนแนวทางของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่ถือกรรมสิทธิ์ และมองคนงานเหล่านี้ในลักษณะคนที่อยู่ใต้การปกครองที่ต้องดูแลในเชิงคุณค่าทางเศรษฐกิจเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รัฐฐาลสิงคโปร์ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยยืนยันว่า กลุ่มแรงงานข้ามชาติต่างได้รับการดูแลอย่างดี และจะได้รับวัคซีนฟรี เหมือนกับพลเมืองชาวสิงคโปร์คนอื่นๆ

ทางด้านนาย ตัน ซี เล่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการแรงงาน สิงคโปร์ ยอมรับว่า มีโอกาสที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 อีกครั้งภายในหอพักคนงานต่างด้าว และทางการให้ความสำคัญมาก แม้มาตรการที่ผ่านมาต่อแรงงานต่างด้าว อาจจะเข้มงวด แต่ก็เพื่อรับผิดชอบในความปลอดภัย และการดูแลความเป็นอยู่ รวมถึงสวัสดิภาพต่าง ๆ ของคนงานเหล่านี้

ขณะที่ทางการไทย ระบุว่า จะอนุมัติให้ต่อใบอนุญาตทำงาน ให้กับแรงงานต่างด้าวต่อไป โดยที่แรงงานบางส่วน จะได้รับการตรวจหาเชื้อฟรี รวมทั้งเตรียมดำเนินคดีกับนายจ้างที่ทอดทิ้งแรงงานต่างด้าว

แต่ นายโรเบิร์ตสัน จากฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ย้ำว่า ทางการควรให้ความสำคัญในด้านที่พักอาศัย และ ปฏิรูปกฎหมายการขอวีซ่าแรงงาน ที่สามารถปลดปล่อยลูกจ้างให้ไม่ต้องขึ้นอยู่กับนายจ้าง เพื่อแก้ปัญหาการลอยแพลูกจ้างเหมือนที่ผ่านมา เพราะในสภาวะการที่เปราะบางของการระบาดใหญ่ ทางการจำเป็นต้องทบทวนวิธีการปฏิบัติต่อแรงงานข้ามชาติที่ต้องเท่าเทียมกับทุกคน ไม่ใช่ทำเพียงเพราะเลี่ยงไม่ได้

ที่มา : VOA

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo