รัฐบาลสหรัฐทุ่มเงินมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ เร่งพัฒนา “วัคซีนโควิด-19” และวิธีการรักษาแบบใหม่
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข และบริกาารมนุษย์ (เอชเอชเอส) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐใช้งบประมาณมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 171,000 ล้านบาท ในโครงการที่ชื่อว่า “โปรเจกต์ เน็กซ์เจน”
การลงทุนดังกล่าว ที่เน้นการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 และวิธีการรักษาแบบใหม่ ๆ มีเป้าหมายเพื่อจัดหาการปกป้องผู้คนจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ต่าง ๆ ให้ดีกว่าเดิม รวมถึงสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ที่อาจกลายเป็นภัยคุกคามในอนาคต
โฆษกเอชเอชเอส ระบุว่า แม้วัคซีนที่มีอยู่ จะยังมีประสิทธิภาพอย่างมาก ในการปกป้องไม่ให้เกิดอาการป่วยอย่างรุนแรง และเสียชีวิต แต่เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่งแล้ว ก็จะมีความสามารถในการลดการติดเชื้อ และการแพร่กระจายเชื้อได้น้อยลง
“การเกิดสายพันธุ์ใหม่ และการสูญเสียภูมิคุ้มกัน เมื่อเวลาผ่านไป อาจทำให้เกิดความท้าทายอย่างต่อเนื่องต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”
ทั้งนี้ รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะใช้เงินขั้นต่ำ 5,000 ล้านดอลลาร์ ในการร่วมมือกับภาคเอกชน ในแนวทางที่คล้ายคลึงกับโครงการ “Operation Warp Speed” ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เร่งการพัฒนา และแจกจ่ายวัคซีนเมื่อปี 2563
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ ระบุว่า โปรเจกต์ เน็กซ์เจน จะทำให้ขั้นตอนในการพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่ และวิธีการรักษาแบบต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว และกระชับมากขึ้น ผ่านการร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนามัยโลก’ ปรับคำแนะนำใหม่ ชี้ เด็ก-วัยรุ่น สุขภาพดี อาจไม่ต้องฉีดวัคซีนโควิด
- ‘สหรัฐ’ ชี้ ไม่มีข้อมูลสนับสนุน ‘ฉีดวัคซีนโควิด’ หลายเข็มต่อปี
- วิจัยชี้ ‘ฉีดวัคซีนโควิด-19’ เกี่ยวข้อง เจอปัญหา ‘หัวใจ-หลอดเลือด’ น้อยลง