ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ร่วงลงกว่า 3% จากความกังวลว่า การที่จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองใหญ่หลายแห่ง เพื่อสกัด “โควิด” จะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม ร่วงลง 2.94 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 86.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ร่วงลง 3.28 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 92.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมืองกวางโจว ทางตอนใต้ของจีน ประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เช่นเดียวกับเมืองเสิ่นเจิ้น ที่สั่งควบคุมพื้นที่หลายส่วน เพื่อสกัดการแพร่ระบาด ทำให้เกิดความกังวลว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และการใช้ชีวิตของประชาชนในทั้ง 2 เมือง ที่ต่างเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของจีน
นอกจากนี้ เมืองเฉิงตู ยังสั่งล็อกดาวน์หลายพื้นที่ และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทที่เข้ามาตั้งธุรกิจในเมืองแห่งนี้ รวมถึงโตโยต้า มอเตอร์ และ ฟ็อกซ์คอน์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตไอโฟนให้กับแอปเปิ้ล
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านอาจมีความคืบหน้า ซึ่งจะปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดโลก
นักลงทุน ยังจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ในวันที่ 5 กันยายนนี้ โดยคาดการณ์ว่า โอเปคพลัสอาจประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมครั้งนี้ เพื่อพยุงราคาในตลาด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- เปิดเหตุผล ‘ราคา น้ำมัน’ ยังแพงอีกนาน
- ‘ยูเออี’ ลั่น ทำงานร่วม ‘โอเปกพลัส’ สร้างเสถียรภาพ ‘ตลาดน้ำมันโลก’