World News

‘ราคาน้ำมัน WTI’ ร่วงแรง แตะระดับ 89 ดอลลาร์ กังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ฉุดดีมานด์

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ เมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์ จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนชะลอตัว หลังมีรายงานว่า เมืองใหญ่หลายแห่งของจีน เพิ่มความเข้มงวดในการใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 รวมทั้งรายงานที่ว่าภาคการผลิตจีนหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2

ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม ร่วงลง 2.09 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 89.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม ดิ่งลง 2.82 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 96.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมัน

นักลงทุนกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันอ่อนแอลงด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ จีน ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนสิงหาคม อยู่ที่ระดับ 49.4

แม้จะขยับขึ้นจากระดับ 49 ในเดือนกรกฎาคม แต่ดัชนี PMI ยังอยู่ระดับต่ำกว่า 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว อันเนื่องมาจากผลกระทบของโรคโควิด-19 วิกฤติพลังงาน และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ มีรายงานว่า เมืองกวางโจประกาศเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมโควิด-19 ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และพื้นที่หลายส่วนในเมืองเซินเจิ้นซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีน และเมืองต้าเหลียนยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์

ความวิตกดังกล่าว บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 500,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล

นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ในวันที่ 5 กันยายนนี้ โดยคาดว่า อาจประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมครั้งนี้ เพื่อพยุงราคาในตลาด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo