ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ลดลงเล็กน้อย 43 เซนต์ ขณะนักลงทุนจับตาการประชุม “โอเปคพลัส” ในวันนี้ คาดหารือถึงเรื่องปริมาณการผลิตในเดือนกันยายน
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 94.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 100.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการประชุมโอเปกพลัสในวันนี้ (3 ส.ค.) โดยที่ประชุมจะพิจารณานโยบายการผลิตสำหรับเดือนกันยายน หลังจากมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม
นักลงทุนคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปคพลัสจะไม่เพิ่มกำลังการผลิตมากนัก เพราะกังวลว่า เศรษฐกิจโลกอาจถดถอย และอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ทางด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตทั้งในสหรัฐ ยูโรโซน และจีน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนกรกฎาคมของจีน และยูโรโซน ต่างก็อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตเดือนกรกฎาคมของสหรัฐ ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวัน สร้างความไม่พอใจให้กับจีน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 600,000 บาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 กรกฎาคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- เปิดเหตุผล ‘ราคาน้ำมัน’ ยังแพงอีกนาน
- ‘ยูเออี’ ลั่น ทำงานร่วม ‘โอเปกพลัส’ สร้างเสถียรภาพ ‘ตลาดน้ำมันโลก’