World News

‘ราคาน้ำมัน WTI’ พุ่งไม่หยุด ยืนเหนือ 94 ดอลลาร์ ขานรับรับสต็อกลด-ข้อตกลงนิวเคลียร์ไม่แน่นอน

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขานรับสต็อกน้ำมันดิบลดเกิดคาด และสัญญาณบ่งชี้ว่า การฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน

ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 94.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 101.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาปิดตลาดของน้ำมันทั้ง 2 ชนิด แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ราคาน้ำมัน

ตลาดได้แรงหนุนขาขึ้น จากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 933,000 บาร์เรล

นอกจากนี้ ยังเกิดแรงเข้าซื้อ หลังมีรายงานว่าสหรัฐจะไม่พิจารณาข้อเรียกร้องเพิ่มเติมของอิหร่าน ในความพยายามที่จะรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว อาจทำให้การบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์เป็นไปอย่างล่าช้า และอาจจะทำให้อิหร่านยังไม่สามารถส่งออกน้ำมันเข้าสู่ตลาดได้

ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 หรือ แผนปฏิบัติการร่วมแบบเบ็ดเสร็จ (Joint Comprehensive Plan of Action) เป็นการตกลงกันระหว่างอิหร่าน กับมหาอำนาจ 6 ชาติ คือ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) และสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

สหรัฐ และอิหร่านยังไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญของข้อตกลง โดยอิหร่านเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดเสียก่อน เพื่อแสดงความจริงใจในการเจรจา ขณะที่สหรัฐโต้กลับว่า จะไม่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร หากอิหร่านไม่หยุดการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo