ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปิดพุ่งขึ้นกว่า 4% เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น กลับมายืนเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันในตลาดโลก จะเผชิญภาวะตึงตัว ทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐ ที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม พุ่งขึ้น 4.2 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 102.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 3.96 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 104.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ภาวะการจัดหาน้ำมันตึงตัว เริ่มกลับมาเป็นปัจจัยหนุนตลาดอีกครั้ง โดยล่าสุดศาลรัสเซียมีคำสั่งให้โครงการแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (Caspian Pipeline Consortium: CPC) ระงับการดำเนินการเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งสร้างความวิตกด้านการจัดหาน้ำมันทั่วโลก
CPC ซึ่งรับผิดชอบการส่งน้ำมันประมาณ 1% ของทั่วโลก โดยมีบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอย่างเชฟรอน และเอ็กซอน โมบิล รวมอยู่ด้วยนั้น ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการรั่วไหลของน้ำมัน ซึ่ง CPC ต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของศาล
ทั้งนี้ ท่อส่งน้ำมันโครงการ CPC เป็นหนึ่งในท่อส่งน้ำมันใหญ่สุดในโลก ส่งน้ำมันจากคาซัคสถาน ไปยังภูมิภาคทะเลดำ โดยท่อส่งน้ำมันดังกล่าว กลายเป็นที่สนใจนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน ซึ่งส่งผลให้การส่งออกน้ำมันของรัสเซียชะลอตัวลง และทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะลดลงเพียง 500,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์ และน้ำมันดีเซลลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะ 1.2 ล้านบาร์เรล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ซีอีโอเอ็กซอน’ เตือน เปลี่ยนใช้ ‘พลังงานหมุนเวียน’ กะทันหัน ทำ ‘ราคาน้ำมัน’ พุ่ง
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- เปิดเหตุผล ‘ราคาน้ำมัน’ ยังแพงอีกนาน