World News

ผู้เชี่ยวชาญชี้ เหตุ ‘เครื่องบินจีนตก’ แบบปักหัวลง เป็นเรื่องผิดปกติ

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมอง เหตุเครื่องบินจีนตก ในลักษณะแบบปักหัวลง เป็นเรื่องผิดปกติ ระบุ คล้ายกรณีซิลค์แอร์ตกในอินโดนีเซีย แต่ยังไม่ฟันธงสาเหตุว่า เกิดจากอะไร

สำนักงานการบินพลเรือนจีน ระบุว่า เครื่องบินโบอิง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ MU5735 ได้ตกลงในหุบเขาใกล้กับเมืองอู๋โจว โดยเครื่องบินเดินทางออกจากเมืองคุนหมิงเมื่อเวลา 13.11 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) และมีกำหนดเดินทางถึงเมืองกวางโจว ภายในเวลา 2 ชั่วโมง แต่ได้ประสบอุบัติเหตุตกก่อนที่เดินทางถึงจุดหมาย

เครื่องบินจีนตก

ข้อมูลจาก Flightradar24 ระบุว่า เที่ยวบิน MU5735 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลนส์ บินที่ระดับความสูง 29,000 ฟุต (8,839.2 เมตร) และอยู่ห่างประมาณ 100 ไมล์ (160.93 กิโลเมตร) จากจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นจุดที่นักบินจะเริ่มลดเพดานบิน เพื่อเตรียมลงจอด แต่แทนที่จะค่อย ๆ ปรับลดเพดานบินลงประมาณ 1,000 ฟุตต่อนาที เครื่องบินกลับปักหัวลง และจากนั้นก็เริ่มดิ่งลงด้วยความเร็วกว่า 30,000 ฟุต (9,144 เมตร) ต่อนาทีภายในเวลาไม่กี่วินาที

เหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้ผู้โดยสาร 132 คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด และเป็นอุบัติเหตุด้านการบินพาณิชย์ที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปีของจีน

เครื่องบินจีนตกแบบปักหัวลง เป็นเรื่องผิดปกติ

นายจอห์น ค็อกซ์ ที่ปรึกษาความปลอดภัยด้านการบิน และอดีตนักบินที่มีประสบการณ์ขับเครื่องบินโบอิ้ง 737 กล่าวว่า “นี่เป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติ และเป็นเรื่องยากที่เครื่องบินจะบินในลักษณะเช่นนั้น”

ขณะที่ นายเจฟฟ์ กัซเซตติ อดีตหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบอุบัติเหตุประจำสำนักงานการบินของรัฐบาลสหรัฐ ก็บอกว่า เป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติเช่นกัน โดยนายค็อกซ์ และนายกัซเซตติ ต่างมีความเห็นตรงกันว่า เส้นทางบินที่ค่อนข้างตรงของเครื่องบินลำนี้ ประกอบกับช่องสัญญาณสื่อสาร (transponder) ของเครื่องบิน ก็ยังเปิดทำงานอยู่ในระหว่างเกิดเหตุนั้น เป็นการบ่งชี้ว่า การทำงานของเครื่องบินไม่ได้หยุดชะงัก เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้น ในกรณีที่มีการวางระเบิดบนเครื่องบินด้วยฝีมือของกลุ่มก่อการร้าย

เครื่องบินจีนตก

ด้านคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ (NTSB) ระบุว่า เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ มีความคล้ายกับเมื่อครั้งที่เครื่องบินโบอิง 737-300 ของสายการบินซิลค์แอร์ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 104 คน ประสบอุบัติเหตุดิ่งลงสู่แม่น้ำในอินโดนีเซีย ส่งผลให้ผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งหมด โดยเครื่องบินลำดังกล่าวดิ่งลงด้วยความเร็วกว่า 38,000 ฟุต (11,582 เมตร) ต่อนาที

อย่างไรก็ดี นายเบนจามิน เบอร์แมน อดีตผู้ตรวจสอบของ NTSB ซึ่งเคยมีประสบการณ์ขับเครื่องบินโบอิง 737 กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า อะไรคือสาเหตุที่นำไปสู่การตกของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส พร้อมระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดจากสาเหตุหลายอย่าง รวมถึงการทำงานที่ผิดปกติของเครื่องบิน หรืออาจเป็นความผิดพลาดของนักบิน หรืออาจจะหลายกรณีรวมกัน แต่เหตุการณ์เหล่านี้ก็เป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo