World News

สรุปสถานการณ์ รัสเซียยูเครนล่าสุด 11 มี.ค. รัสเซียเปิดแนวรบใหม่-ทิ้งระเบิดสถาบันทดลองปฏิกรณ์นิวเคลียร์

สถานการณ์สู้รบรัสเซียยูเครนล่าสุด ยังไม่คลายความรุนแรง กองทัพรัสเซียเปิดแนวรบใหม่ทางตะวันตกของยูเครนเป็นครั้งแรก โดยมีการโจมตีที่เมืองลุตสก์ (Lutsk) และเมืองอิวาโน-ฟรานคิฟสก์ (Ivano-Frankivsk) ทางตะวันตกเฉียงเหนือ รวมทั้งที่เมืองนีโปร (Dnipro) ริมฝั่งแม่น้ำเนียเปอร์ (Dnieper) ซึ่งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันออกของประเทศด้วย

กองทัพยูเครนระบุว่า ฝ่ายรัสเซียใช้การโจมตีระยะไกล ที่มีความแม่นยำสูง ยิงขีปนาวุธเข้าใส่สนามบินทหาร 2 แห่ง ที่เมืองทางตะวันตกดังกล่าว โดยเมืองเหล่านี้ไม่เคยตกเป็นเป้าการโจมตีโดยตรงของกองทัพรัสเซียมาก่อน ต่างจากกรุงเคียฟ และเมืองทางตะวันออก และทางใต้ของยูเครน ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกระดมโจมตีอย่างหนักหน่วงมาโดยตลอด

เมืองลุตสก์ และเมืองอิวาโน-ฟรานคิฟสก์ ต่างก็อยู่ใกล้กับเมืองละวีฟ (Laviv) ซึ่งมีชาวยูเครนจำนวนมากอพยพไปพักพิงอยู่ชั่วคราวเพื่อหนีภัยการสู้รบ เนื่องจากเชื่อว่าพื้นที่ทางภาคตะวันตกมีความปลอดภัยมากกว่า

รัสเซียยูเครนล่าสุด

สถานการณ์ความขัดแย้ง รัสเซียยูเครนล่าสุด 11 มีนาคม 2565

  • กองทัพรัสเซียเริ่มขยับเข้าใกล้กรุงเคียฟอีกครั้ง

รายงานข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า กองกำลังรัสเซีย ประกอบด้วยรถถัง และยานยนต์ทหารหลายพันคัน เริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้ง หลังหยุดชะงักไปเป็นเวลาหลายวัน โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขบวนทัพรัสเซียได้รุกคืบเข้าใกล้กรุงเคียฟ นครหลวงของยูเครนมากขึ้นราว 5 กิโลเมตร

ภาพถ่ายดาวเทียมจากบริษัท Maxar Technologies ของสหรัฐ ยังยืนยันว่า ฝ่ายรัสเซียมีการจัดขบวนทัพใหม่และเปลี่ยนรูปแบบการวางกำลังที่รอบนอกของกรุงเคียฟ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการเตรียมความพร้อมครั้งใหม่ เพื่อบุกเข้ายึดเมืองที่เป็นเป้าหมายสำคัญให้ได้

  • รัสเซียทิ้งระเบิด “สถาบันทดลองปฏิกรณ์นิวเคลียร์” ในยูเครน

นายอันตัน เกราชเชนโก ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของยูเครน เปิดเผยว่า เครื่องบินของรัสเซียได้ทิ้งระเบิดใส่สถาบันทดลองเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ในเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลการใช้รังสีเพื่อวัตถุประสงค์ด้านวิทยาศาสตร์ และทำให้โรงแรมใกล้เคียงขนาด 5 ชั้น เกิดเพลิงไหม้

  •  “สไนเปอร์” แม่นติดอันดับโลก รุดช่วยยูเครน

บรรษัทแพร่ภาพและกระจายเสียงแห่งแคนาดา หรือ ซีบีซี รายงานว่า อดีตทหารในกองทัพแคนาดาผู้หนึ่ง ซึ่งมีสมญานามในการรบว่า “วาลิ” (Wali) ได้เดินทางไปยูเครนเพื่อเข้าร่วมต่อสู้ต้านทานกองกำลังรัสเซียแล้ว

“วาลิ” เป็นมือปืนซุ่มยิง หรือสไนเปอร์ที่มีความแม่นยำเป็นอันดับต้นของโลก เคยออกรบร่วมกับกองกำลังชาวเคิร์ดในอิรัก เพื่อต่อต้านกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลามหรือไอเอส ทั้งยังเคยออกรบในสงครามอัฟกานิสถาน ซึ่งเขาสร้างชื่อด้วยการยิงศัตรูที่อยู่ห่างออกไปถึง 3.2 กิโลเมตรเสียชีวิต

ปัจจุบันคาดว่ามีทหารอาสาสมัครจากต่างชาติถึง 20,000 ราย จากหลายสิบประเทศทั่วโลก เดินทางมาช่วยกองกำลังยูเครนต่อสู้กับฝ่ายรัสเซีย

  • “ปูติน” รับอาสาสมัครจากตะวันออกกลางช่วยรบในยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไฟเขียวให้นำอาสาสมัครนักรบจากตะวันออกกลาง มาร่วมกองทัพรัสเซียในการช่วยรบในยูเครน  โดยบอกว่า อาสาสมัครเหล่านี้ใม่ต้องการมาเพราะเงิน แต่มาด้วยความยินยอมพร้อมใจ  ที่จะช่วยเหลือประชาชนในเขตดอนบาส จึงจำเป็นต้องให้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ และช่วยให้อาสาสมัครเหล่านี้เดินทางไปยังพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาทตามความประสงค์ของพวกเขา

  • “ยูเอ็น” ยอมประชุมฉุกเฉินเรื่องอาวุธชีวภาพตามคำขอรัสเซีย

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เตรียมเปิดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ (11 มี.ค.) ตามที่รัสเซียร้องขอ เพื่อพิจารณาข้อกล่าวหาของรัสเซียที่อ้างว่า สหรัฐ ให้ทุนสนับสนุนการพัฒนาอาวุธชีวภาพในยูเครน หลังสหรัฐ ออกมาเตือนว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธเคมี หรืออาวุธชีวภาพในสงครามรุกรานยูเครน โดยมีเจตนาจัดฉากสร้างสถานการณ์เพื่อใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม

  • “อนามัยโลก” แนะยูเครนทำลายเชื้อโรคในห้องทดลองกันแพร่กระจาย

องค์การอนามัยโลก แนะนำให้ยูเครนทำลายเชื้อโรคอันตรายสูง ในห้องปฏิบัติการทดลองทั่วประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เชื้อโรคหล่านี้จะแพร่กระจายออกมาจากห้องทดลอง และทำให้เกิดโรคระบาดในประชาชน ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนอย่างรุนแรง จนทำให้อาคารหลายแห่งเสียหายหนัก แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับวันที่ประกาศแนะนำแนวทางดังกล่าว และไม่ได้ระบุถึงประเภทของเชื้อโรค หรือสารอันตรายที่อยู่ในห้องทดลองของยูเครน

ประเด็นเรื่องห้องปฏิบัติการชีวภาพในยูเครน กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากนับตั้งแต่รัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวหาว่า  สหรัฐได้มาสร้างห้องปฏิบัติการอาวุธชีวภาพไว้ในยูเครน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัฐบาลสหรัฐ และยูเครนปฏิเสธมาโดยตลอด

  • สหรัฐและพันธมิตรจะถอดสถานะพิเศษรัสเซียในการค้าโลก

สหรัฐ กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 และสหภาพยุโรป หรืออียู จะเดินหน้าระงับสถานะชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์ยิ่ง (Most-Favored Nation) หรือ เอ็มเอฟเอ็น ของรัสเซียในองค์การการค้าโลกในวันนี้ เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียนำกองกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ซึ่งหากรัสเซียถูกถอดสถานะจริง ก็จะเปิดทางให้สหรัฐและชาติพันธมิตรสามารถขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากรัสเซีย ถือเป็นการเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจของรัสเซีย ที่กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง

รัสเซียยูเครนล่าสุด

  • “เฟซบุ๊ก-อินสตาแกรม” อนุญาตให้ใช้ถ้อยคำรุนแรงได้ชั่วคราว

เมตา บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ทั้ง เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม แถลงว่าจะเปลี่ยนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับถ้อยคำรุนแรงในหลายประเทศเป็นการชั่วคราว เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ยูเครนถูกรุกราน โดยจะยอมให้มีการใช้ถ้อยคำรุนแรงได้ แม้ว่าปกติแล้วจะผิดกฎการใช้งานก็ตาม ตัวอย่างเช่นประโยคที่ว่า “ผู้รุกรานชาวรัสเซียจงตายซะ”

เมตาอนุญาตให้ผู้ใช้สื่อโซเชียลในหลายประเทศ กล่าวถ้อยคำสาปแช่งให้ตายกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุสได้ โดยประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษชั่วคราวดังกล่าวได้แก่ อาร์เมเนีย, อาเซอร์ไบจาน, เอสโตเนีย, จอร์เจีย, ฮังการี, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, โปแลนด์, โรมาเนีย, สโลวาเกีย รวมทั้งรัสเซีย และยูเครนด้วย

นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมในประเทศข้างต้น ยังสามารถกล่าวถ้อยคำที่เรียกร้องให้ใช้ความรุนแรงกับทหารรัสเซียได้อีกด้วย แต่ไม่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อความที่เรียกร้องการก่อความรุนแรงต่อพลเรือนรัสเซีย

  • “ยูนิโคล่” สั่งปิดร้านค้าทั้งหมดในรัสเซีย

บริษัทฟาสต์ รีเทลลิ่ง โค ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของยูนิโคล่เปิดเผยว่า บริษัทจะปิดร้านค้าทั้งหมด 50 แห่งในรัสเซียชั่วคราว การเคลื่อนไหวที่มีขึ้นหลัง ยูนิโคล่ ถูกวิจารณ์อย่างหนักบนโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับนโยบายที่จะยังคงเปิดร้านในรัสเซีย ในช่วงเวลาที่บริษัทคู่แข่งอื่น ๆ ยุติการดำเนินงานแล้ว รวมถึง  อินดิเท็กซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าซาร่า และ เฮนเนส แอนด์ มอริตซ์ เจ้าของร้าน H&M  ที่ตัดสินใจยุติการดำเนินงานในรัสเซียไปตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo