ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งการให้กองกำลังรัสเซีย เข้าประจำการใน “โดเนตสก์” หลังยอมรับ “เอกราช” ของ 2 แคว้นในยูเครน การเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลของชาติตะวันตกว่า จะจุดชนวนให้เกิดสงครามขนาดใหญ่ขึ้นมา
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กองกำลังรัสเซีย ได้เคลื่อนย้ายรถถัง และยุทโธปกรณ์ทางทหาร ผ่านชายแดนเข้าสู่แคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนครอบครองอยู่ และประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากยูเครน โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้มีคำสั่งให้ทหารรัสเซีย ที่เข้าประจำการในภูมิภาคนี้ ทำหน้าที่รักษาสันติภาพ
รายงานข่าวระบุว่า รถถังประมาณ 5 คันได้เคลื่อนตัวเข้าสู่เขตชานเมืองของแคว้นโดเนตสก์ ขณะที่รถถังอีก 2 คันได้เคลื่อนที่ไปยังอีกฝั่งหนึ่งของเมือง ซึ่งการเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้น ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังประธานาธิบดีปูตินลงนามในสนธิสัญญาความเป็นพันธมิตรกับแคว้นโดเนตสก์ และลูฮันสก์
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูติน ได้ประกาศการตัดสินใจของตนผ่านทางโทรทัศน์ โดยกล่าวว่า ยูเครนเคยเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์รัสเซีย และว่า ภูมิภาคตะวันออกของยูเครนคือ ผืนดินโบราณของรัสเซีย พร้อมแสดงความมั่นใจว่า ประชาชนชาวรัสเซียจะสนับสนุนการตัดสินใจของตน
รัสเซียมีสิทธิสร้างฐานทัพในโดเนตสก์-ลูฮันสก์
เนื้อหาบางส่วนในกฤษฎีกาที่ประธานาธิบดีปูติน ลงนามร่วมกับผู้นำของ 2 อดีตดินแดนยูเครน ที่ปัจจุบันเรียกตัวเองว่า สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ ระบุว่า การรับรองสถานะความเป็นอิสระ และเอกราชของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และลูฮันสก์ จะทำให้รัฐบาลรัสเซีย มีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะสร้างฐานทัพทหารใน 2 แคว้นแห่งนี้ รัฐบาลของทั้ง 2 แคว้นดังกล่าว ก็มีสิทธิ์ที่จะตั้งฐานทัพทหารในดินแดนของรัสเซียเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ทั้ง 3 ฝ่ายได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะปกป้องคุ้มครองกันและกัน และยังลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือทางทหาร และการรับรองพื้นที่ชายแดนของกันและกันด้วย
เนื้อหาในกฤษฎีกาซึ่งมีทั้งหมด 31 ข้อยังระบุด้วยว่า รัสเซีย, แคว้นโดเนตสก์ และลูฮันสก์ จะร่วมมือกันเพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับเศรษฐกิจของกันและกัน โดยทั้ง 2 แคว้นต่างก็เคยเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างมากในการบูรณะฟื้นฟู หลังจากได้รับผลกระทบจากสงครามการสู้รบกับกองกำลังทหารของรัฐบาลยูเครนเป็นเวลานานถึง 8 ปี
ประกาศเอกราชมาตั้งแต่ปี 2557 แต่ไม่มีชาติไหนยอมรับ
ทั้งนี้ แคว้นโดเนตสก์ และฮันสก์ เป็น คือพื้นที่ที่กลายมาเป็นสมรภูมิระหว่างกองทัพกรุงเคียฟ และกองกำลังแบ่งแยกดินแดนมาตั้งแต่ปี 2557 หรือหลังจากรัสเซียทำการผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตน โดยมีผู้เสียชีวิตไปแล้วราว 14,000 คน จากการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่าย
กลุ่มแบ่งแยกดินแดนนั้นต้องการให้รัสเซียลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพ และให้ความช่วยเหลือด้านการทหารเพื่อปกป้องพวกตนจากสิ่งที่ทางกลุ่มเรียกว่าเป็น การรุกรานทางทหารของยูเครนที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐสภารัสเซียร้องขอให้ประธานาธิบดีปูติน ประกาศอย่างเป็นทางการว่า รัสเซียยอมรับสถานภาพของทั้ง 2 แคว้น ซึ่งประกาศอิสรภาพจากยูเครน มาตั้งแต่ปี 2557 แต่ยังไม่มีประเทศใดยอมรับทั้งคู่ ในฐานะรัฐที่มีอธิปไตยเป็นของตนเองจนถึงบัดนี้
การที่รัสเซียรับรองเอกราชให้กับแคว้นโดเนตสก์ และลูฮันสก์สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาชาติตะวันตก โดยสหรัฐได้สั่งห้ามชาวอเมริกัน ไม่ให้ทำการค้า และการลงทุนกับทั้ง 2 แคว้น
ส่วนนายชาร์ล ไมเคิล ประธานสภายุโรป และนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ประกาศว่า สหภาพยุโรป (อียู) ก็จะทำการคว่ำบาตรต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับรองเอกราชของแคว้นโดเนตสก์ และลูฮันสก์ด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ระอุ! รัสเซียสั่งขับนักการทูตสหรัฐ ‘ไบเดน’ ชี้แนวโน้มสูงบุกยูเครน
- ‘ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์’ เร่งพลเมืองออกจาก ‘ยูเครน’ หลังเจรจา ‘ไบเดน-ปูติน’ ไร้ทางออก
- สหรัฐขอพลเมืองอเมริกัน ออกจากยูเครน หวั่นรัสเซียเพิ่มกำลังทหารชายแดน