กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ขอให้พลเมืองอเมริกันทั้งหมด เดินทางออกจากยูเครน พร้อมออกคำสั่งให้ครอบครัวทูต ในกรุงเคียฟ เดินทางกลับประเทศทั้งหมด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังรัสเซียเพิ่มกำลังทหารบริเวณชายแดน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ประกาศคำสั่งให้สมาชิกครอบครัวของผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานทูตสหรัฐ ประจำกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เดินทางออกจากยูเครนในทันที จากความกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซีย
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้พลเมืองสหรัฐทั้งหมด ที่อาศัยอยู่ในยูเครน เดินทางออกจากประเทศในทันที
“คำแนะนำของเราต่อพลเมืองสหรัฐที่อยู่ในยูเครน คือ พวกเขาควรที่จะพิจารณาเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่ตอนนี้ โดยใช้ทางเลือกการขนส่งทั้งแบบส่วนตัว หรือพาณิชย์”
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ระบุด้วยว่า ได้รับรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้กำลังทางทหารกับยูเครน โดยสถานการณ์ความมั่นคงในไครเมีย ซึ่งรัสเซียครอบครองอยู่และในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนซึ่งรัสเซียควบคุมอยู่นั้น เป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ยากและอาจย่ำแย่ลงโดยไม่มีการส่งสัญญาณให้เตรียมตัว
หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กำลังพิจารณาส่งทหารประมาณ 1,000-5,000 นายไปยุโรปตะวันออกและแถบบอลติก และอาจเพิ่มจำนวนอีกหลายเท่าหากจำเป็น รวมทั้งยังอาจส่งเรือรบและเครื่องบินไปยังชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ด้วย
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นักการทูตระดับสูงของสหรัฐกับรัสเซียไม่สามารถเจรจาหาทางออกเพื่อแก้ไขวิกฤติในยูเครน แม้ว่าทั้ง 2 ชาติตกลงที่จะหารือกันต่อไปก็ตาม
รัสเซียเรียกร้องให้สหรัฐยุติการขยายอิทธิพลของนาโตไปยังยุโรปตะวันออก และสหรัฐต้องให้คำมั่นว่ายูเครนจะไม่มีวันได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารกับชาติตะวันตก
ในขณะที่สหรัฐกังวลว่า รัสเซียอาจตัดสินใจบุกยูเครน เช่นเดียวกับที่ใช้กำลังทหารผนวกคาบสมุทรไครเมียในปี 2557 โดยขณะนี้รัสเซียส่งกำลังทหารเกือบ 100,000 นายประชิดชายแดนยูเครน และอาจเพิ่มกำลังพลเป็น 2 เท่าในเร็ว ๆ นี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ยูเครน’ ยืนยันดับ 22 ศพ สูญหาย 4 เหตุเครื่องบินทหารตก
- จับตาสถานการณ์เมียนมาบานปลาย รัสเซียมาแล้ว ขณะบิ๊กทหาร 12 ประเทศเริ่มขยับ
- ‘นาโต’ ยินดี ‘สหรัฐฯ-รัสเซีย’ เตรียมต่อสัญญาคุมอาวุธนิวเคลียร์
