รัสเซียสั่งขับนักการทูตสหรัฐ “บาร์เทิล กอร์แมน” ท่ามกลางความกังวลของชาติตะวันตกที่ว่า รัสเซียกำลังเตรียมที่จะบุกยูเครน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานอ้างโฆษก สถานทูตสหรัฐในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ว่า รัสเซียสั่งขับ นายบาร์เทิล กอร์แมน รอองเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำกรุงมอสโก โดยให้เดินทางออกจากประเทศในทันที
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล และว่าเป็นวิธีที่รัสเซียเร่งให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น
“เราเรียกร้องให้รัสเซียยุติการขับไล่นักการทูต และเจ้าหน้าที่สหรัฐ อย่างไร้เหตุผล ขอให้ทำงานอย่างมีประสิทธิผลเพื่อสร้างภารกิจของเราขึ้นมาใหม่” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐ ระบุ และว่า สหรัฐกำลังพิจารณาหามาตรการตอบโต้ในเรื่องนี้อยู่
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศ รัสเซีย แถลงว่า นายกอร์แมน ถูกสั่งให้เดินทางออกจากประเทศ เพื่อตอบโต้ต่อการที่สหรัฐ ขับไล่ “รัฐมนตรี” รายหนึ่ง จากสถานทูตของรัสเซีย ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ทั้งนี้ นายกอร์แมน เป็นเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสสูงสุดอันดับ 2 ประจำสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ณ กรุงมอสโก โดยก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งรองผู้ช่วยเลขานุการของกระทรวงการต่างประเทศ และผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการสอบสวนและวิเคราะห์ภัยคุกคาม โดยทำหน้าที่เฝ้าติดตามการคุกคามต่อบุคลากรทางการทูตของสหรัฐ
ไบเดนชี้แนวโน้มสูงเตรียมบุกยูเครน หลังขับนักการทูตสหรัฐ
ทางด้าน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงความเห็นในวันเดียวกันนี้ว่า มีแนวโน้มสูงที่รัสเซียจะบุกยูเครนในช่วงหลายวันข้างหน้าเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ แต่เขายังแสดงความเชื่อมั่นว่า มีความเป็นไปได้ที่จะหาทางออกด้วยแนวทางทางการทูต ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความกังวลของรัสเซีย เรื่องขีปนาวุธขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และการซ้อมรบทางภาคตะวันออกของยุโรป
ส่วนนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า รัสเซียยังคงเคลื่อนกำลังพล บริเวณพรมแดนติดกับยูเครน และไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่ารัสเซียกำลังถอนทหารตามที่กล่าวอ้าง
นายออสตินกล่าวในการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหมของนาโตว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั้น ตรงข้ามกับที่รัสเซียได้บอกไว้ คือมีการเพิ่มกำลังทหาร จากจำนวนมากกว่า 150,000 คน ที่ประจำการบริเวณพรมแดนติดกับยูเครนแล้ว
นอกจากนี้ ยังเห็นการเพิ่มเลือดสำรองในบริเวณดังกล่าวด้วย ซึ่งชัดเจนว่า ไม่ใช่การเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านแน่นอน
เขาบอกด้วยว่า หากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เลือกทำสงครามมากกว่าการเจรจาทางการทูต ผู้นำรัสเซียเองที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเลือกหนทางแห่งสันติภาพ และความเคารพต่ออธิปไตยเหนือดินแดนของยูเครน ก็จะถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อรัสเซีย และประชาชนรัสเซียเองเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน สหรัฐ กำลังจับตามองความขัดแย้งระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่รัสเซียสนับสนุนกับกองกำลังยูเครนในแคว้นดอนบาสทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งมีประชาชน 14,000 คนถูกสังหารในช่วงแปดปีที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์’ เร่งพลเมืองออกจาก ‘ยูเครน’ หลังเจรจา ‘ไบเดน-ปูติน’ ไร้ทางออก
- นักธุรกิจจีนชื่อดัง เจอทัวร์ลงหนัก!! อยากให้ลูกชายใช้ชีวิตเสเพล มีแฟนหลายคน มีลูกตอนเรียน
- อึ้ง! ราคาน้ำมัน พุ่งสุดรอบกว่า 7 ปี นักวิเคราะห์ชี้ มีสิทธิทะลุ 115 ดอลลาร์