สหรัฐเตรียมออกกฎข้อบังคับใหม่ พร้อมจัดงบประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ สนับสนุนเจ้าของฟาร์ม และผู้แปรรูปเนื้อสัตว์อิสระ ส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา “ขาดการแข่งขัน” ในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ของประเทศ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เปิดเผยแผนการสนับสนุนการแข่งขันดังกล่าว ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่า บริษัทผลิตเนื้อวัว เนื้อหมู และสัตว์ปีก จำนวนหนึ่งมีการควบคุมตลาดเนื้อสัตว์ในอเมริกามากเกินไป ทำให้บริษัทเหล่านี้ สามารถกำหนดราคาขายส่ง และขายปลีกเพื่อทำกำไรจากซัพพลายเออร์ และลูกค้าได้
ทุนนิยมที่ไม่มีการแข่งขันไม่ใช่ทุนนิยม แต่ เป็นการเอารัดเอาเปรียบ และนั่นคือสิ่งที่เราเห็นในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ และสัตว์ปีกในขณะนี้
ข้อมูลของ ทำเนียบขาว เมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า บริษัทบรรจุภัณฑ์สินค้าประเภทเนื้อสัตว์รายใหญ่ 4 แห่ง คือ คาร์กิลล์ ไทสัน ฟูดส์ เจบีเอส และเนชันแนล บีฟ แพคกิ้ง ควบคุมส่วนแบ่งในตลาดกลุ่มสุกร วัว และไก่ ราว 55%-85%
อุตสาหกรรมแปรรูปเนื้อสัตว์ ขาดการแข่งขัน
“อุตสาหกรรมแปรรูปเนื้อ และสัตว์ปีก เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ถึงการขาดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ผู้ผลิต และเศรษฐกิจ” ทำเนียบขาว ระบุในเอกสาร ระหว่างเปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานเนื้อสัตว์ และสัตว์ปีกให้สามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม และยืดหยุ่นมากขึ้น
“เมื่อพ่อค้าคนกลางที่มีอำนาจเหนือกว่าเข้าควบคุมห่วงโซ่อุปทานเอาไว้มาก คนกลุ่มนี้สามารถเพิ่มผลกำไรมากขึ้น ขณะที่ผู้เลี้ยงกลับมีรายได้น้อยกว่า ส่วนผู้บริโภคต้องจ่ายมากขึ้น”
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตามแผนการดังกล่าว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะจัดสรรงบประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ “American Rescue Plan” ซึ่งลงนามบังคับใช้ไปเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเพิ่มความสามารถในการแปรรูปเนื้อได้อย่างอิสระมากขึ้น
ทางด้าน นายทอม วิลแซก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และนายเมอร์ริค การ์แลนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวในที่ประชุมว่า พวกเขาจะบังคับใช้กฎหมายส่งเสริมการแข่งขันของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อปกป้องเกษตรกร เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ รวมถึงผู้ผลิต และผู้เพาะปลูกในภาคเกษตรกรรมจากการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและการกีดกันทางการค้า
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ ชี้ ‘สหรัฐ-พันธมิตร’ ระบายน้ำมันคลังสำรองน้อยเกิน ไม่ช่วยสกัดราคา
- ‘ดร.อาร์ม’ เผยเบื้องลึก สหรัฐ ไม่เข้า ‘CPTPP’ พลิกเกมตั้งกรอบความร่วมมือใหม่
- อึ้ง! สหรัฐเจอ ‘กวาง’ ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก
