เมื่อวันเสาร์ (28 ส.ค.) โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เตือนว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่จะเกิดเหตุก่อการร้าย ที่สนามบินคาบูลอีกครั้ง ในอีก 24-36 ชั่วโมงข้างหน้า
“สถานการณ์ภาคพื้นดินยังคงมีความอันตรายสูง และความเสี่ยงเกิดเหตุก่อการร้ายในสนามบินคาบูลยังคงอยู่ในระดับสูง ผู้บัญชาการของเราแจ้งผมว่าเหตุโจมตีมีแนวโน้มเกิดขึ้นอีกครั้งในอีก 24-36 ชั่วโมงข้างหน้า โดยผมมอบหมายให้พวกเขาใช้ทุกมาตรการเพื่อคุ้มครองกองกำลัง และรับรองว่าพวกเขาจะมีหน่วยงาน ทรัพยากร และแผนเพื่อป้องกันพลเรือนของเราในภาคพื้นดิน” ไบเดน ระบุในแถลงการณ์ หลังประชุมกับทีมงานด้านความมั่นคงแห่งชาติ
เมื่อวันพฤหัสบดี (26 ส.ค.) เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย บริเวณด้านนอกสนามบินคาบูล ส่งผลให้มีทหารสหรัฐ 13 นาย และพลเมืองชาวอัฟกานิสถานอีก 170 ราย เสียชีวิต โดยกลุ่มไอซิส-เค (ISIS-K) กลุ่มย่อยของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอซิส (ISIS) ในอัฟกานิสถาน ออกมาประกาศว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ รายงานว่าเมื่อวันศุกร์ (27 ส.ค.) กองทัพสหรัฐ ส่งโดรนโจมตีกลุ่มก่อการร้าย ในจังหวัดนันกาฮาร์ ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน เพื่อตอบโต้เหตุระเบิดฆ่าตัวตายดังกล่าว โดยสามารถปลิดชีพสมาชิกคนสำคัญได้ 2 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย
ไบเดนระบุในแถลงการณ์ว่า การตอบโต้ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย สหรัฐ จะตามล่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุระเบิดดังกล่าวทุกคนและทำให้พวกเขาต้องชดใช้
อนึ่ง ไบเดนกำหนดยุติภารกิจทางทหารของสหรัฐ ในอัฟกานิสถาน ภายในวันที่ 31 สิงหาคม โดย จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงฯ กล่าวว่ากองทัพภาคพื้นดินของสหรัฐฯเริ่มถอนตัวออกจากสนามบินคาบูลแล้ว
สหรัฐ พยายามอพยพชาวอเมริกันและพันธมิตรชาวอัฟกานิสถานออกจากประเทศ นับตั้งแต่ตาลีบันอัฟกานิสถานเข้าควบคุมกรุงคาบูลเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม โดยเมื่อวันเสาร์ (28 ส.ค.) ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า มีประชาชนราว 111,900 คนอพยพออกจากอัฟกานิสถานแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม
เมื่อวันพฤหัสบดี (26 ส.ค.) เคนเนธ แมกเคนซี ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางสหรัฐ แถลงข่าวว่าเหตุระเบิด 2 ครั้ง เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (26 ส.ค.) บริเวณประตูแอบบีย์เกตของท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ และโรงแรมบารอนที่อยู่ใกล้เคียงในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ทำให้ทหารสหรัฐ เสียชีวิต 12 นาย และบาดเจ็บ 15 นาย
แมกเคนซีระบุว่าเหตุโจมตีที่ประตูแอบบีย์เกตเกิดจากมือระเบิดพลีชีพคนเดียว และตามด้วยกลุ่มมือปืนของกลุ่มไอซิสที่กราดยิงพลเรือนและทหาร ซึ่งทำให้พลเมืองอัฟกานิสถานบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเช่นกัน ส่วนเหตุโจมตีที่โรงแรมบารอนนั้นยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ โดยการโจมตีทั้งสองครั้งดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดของกองทัพสหรัฐ ในอัฟกานิสถาน
ทั้งนี้ กลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส (ISIS) ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีทั้งสองครั้งผ่านแถลงการณ์ ระบุว่ามือระเบิดพลีชีพเข้าถึงจุดรวมตัวของล่ามและผู้ประสานงานกับกองทัพอเมริกัน บริเวณค่ายแบแรน (Baran Camp) ใกล้สนามบินกรุงคาบูล และจุดชนวนระเบิดเข็มขัด ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 60 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 100 ราย ซึ่งรวมถึงกลุ่มตาลีบันด้วย
แมกเคนซีระบุว่าปัจจุบันกองกำลังสหรัฐ ในอัฟกานิสถานกำลังเผชิญภัยเสี่ยงจากกลุ่มก่อการร้ายอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มไอซิส-เค (ISIS-K) เป็นกลุ่มหัวรุนแรงภายใต้กลุ่มไอซิส ที่ต่อสู้กับตาลีบันมาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าอาจมีการโจมตีตามมาอีก ซึ่งกองทัพสหรัฐ กำลังตระเตรียมความพร้อมรับมือเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้
การเตรียมความพร้อมของสหรัฐ นั้นรวมถึงการ “ติดต่อกับตาลีบัน” ฝ่ายสหรัฐ ประสานงานอย่างต่อเนื่องภายใต้ภารกิจอพยพพลเมืองสหรัฐ ออกจากอัฟกานิสถานที่มีกำหนดสิ้นสุดภายในเดือนนี้ โดยภารกิจดังกล่าวยังไม่สิ้นสุดลงและยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตี
แมกเคนซีเสริมว่าสหรัฐ กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อระบุตัวการและผู้เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีดังกล่าว รวมถึงเตรียมดำเนินการตอบโต้
ทำเนียบขาวของสหรัฐ เผยว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดร่วมกับคณะรัฐมนตรี และมีกำหนดแถลงข่าว ขณะเดียวกันเขาต้องเลื่อนการประชุมกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกไปหนึ่งวันเป็นวันศุกร์ (27 ส.ค.)
ที่มา: สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ยอดตายระเบิด ‘สนามบินอัฟกานิสถาน’ ทะลุร้อยศพ ‘ไบเดน’ สั่งล่ากลุ่มก่อเหตุ
- ทำถูกแล้ว! ‘ไบเดน’ ลั่น ‘ทหารอเมริกัน’ ไม่ควรตาย ในสงครามที่กองทัพ ‘อัฟกานิสถาน’ ไม่เต็มใจสู้
- ‘อัฟกานิสถาน’ ยกเลิก ‘เที่ยวบินพาณิชย์’ ทั้งหมด จากท่าอากาศยานกรุงคาบูล