องค์การอนามัยโลก เรียกร้องประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เร่งฉีดวัคซีน รักษาการสวมหน้ากาก และเว้นระยะห่างทางสังคมต่อไป เพื่อป้องกัน “โควิด” ระบาดรอบใหม่
นางปูนัม เคททราปาล ซิงห์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออก ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องในวันนี้ (20 มิ.ย.) ให้ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค เร่งการฉีดวัคซีน รวมถึง เพิ่มโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข และรักษามาตรการทางสังคมต่าง ๆ เอาไว้ เพื่อป้องกัน ไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดพุ่งสูงขึ้นอีก
“เราจำเป็นต้องเดินหน้าความพยายามอย่างเข้มข้น ในการคัดกรอง ตามรอย และกักโรคต่อไป การรักษาระยะห่าง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยอย่างเหมาะสม ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำ”
“เราควรดำเนินมาตรการเหล่านี้อย่างเต็มที่ และทำไปอีกนาน โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่มีการรายงานถึงการระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์เพิ่มมากขึ้น”
เธอย้ำด้วยว่า แม้กระทั่งประเทศ ที่มีการฉีดวัคซีนโควิดเป็นจำนวนมาก ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุข และสังคม ในรูปแบบที่เหมาะสม และคล่องตัว โดยการรักษาระยะห่างสังคม ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องการจำกัดจำนวนคนรวมกลุ่ม การรักษาระยะห่างในที่ทำงาน และสถานที่สาธารณะ การจำกัดการเดินทาง ทั้งใน และต่างประเทศด้วย
นางซิงห์ ระบุว่า แม้ประเทศต่าง ๆ เร่งฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังต้องใช้มาตรการทางสาธารณสุขและมาตรการทางสังคมให้เหมาะสมตามความรุนแรงของการระบาดและศักยภาพของระบบสาธารณสุขในพื้นที่นั้น ๆ
ท่าทีล่าสุดขององค์การอนามัยโลกนี้เกิดขึ้น หลัง ในสัปดาห์นี้ มัลดีฟส์ และเมียนมาร์ ต่างยืนยันถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ ที่หลายฝ่ายกังวลกันอยู่ ทั้งก่อนหน้านี้ หลายประเทศ รวมถึง บังกลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย เนปาล ศรีลังกา ไทย และติมอร์เลสเต ก็มีรายงานถึงการตรวจพบไวรัสกลายพันธุ์เหล่านี้เช่นกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ยังวางใจไม่ได้! ‘ลาว’ ล็อกดาวน์ต่อ 15 วัน ถึง 4 ก.ค.
- เจาะลึก ผลข้างเคียง ‘โมเดอร์นา’ วัคซีนโควิด ที่ ‘รพ.เอกชน’ กำลังจะได้มา
- เปิดผลข้างเคียง ‘ซิโนฟาร์ม’ วัคซีนโควิด ทางเลือกล่าสุดของไทย