COVID-19

จุดพลุฉลอง! ‘นิวยอร์ก’ ยกเลิก ‘คุมโควิด’ ชาวเมือง 70% ฉีดวัคซีนโดสแรก

ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก “แอนดรูว์ คูโอโม” ประกาศชัยชนะ 70% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในรัฐ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด อย่างน้อย 1 โดสแล้ว สั่งผ่อนคลายมาตรการควบคุม และป้องกันโควิดที่เหลืออยู่ พร้อมจุดพลุฉลอง

“70% หมายความว่าอะไร มันหมายความว่า ตอนนี้เราสามารถกลับไปใช่ชีวิต ที่เราเคยรู้จักกันได้แล้ว” นายคูโอโม บอกต่อฝูงชน ที่ได้รับเชิญมา ร่วมงาน ด้านหน้าเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ ในแมนฮัตตัน

การประกาศดังกล่าว ทำให้ผู้คนออกมาฉลองการใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ ประชาชนส่วนหนึ่งรวมตัวกันรับชมการจุดพลุฉลอง โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยอีกต่อไป

10008999

พร้อมกันนี้ เขายังประกาศว่า รัฐนิวยอร์กได้ยกเลิกมาตรการต่าง ๆ ที่กำหนดให้ธุรกิจจำนวนมาก ต้องดำเนินตามมาตรการทำความสะอาด หรือการวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือ ตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด ซึ่งการผ่อนคลายต่าง ๆ จะมีผลบังคับใช้ในทันที

มาตรการที่ยกเลิก ยังรวมถึง การอนุญาตให้โรงภาพยนตร์ ขายที่นั่งได้เต็มจำนวน ไม่ต้องเว้นที่ว่าง ภัตตาคารร้านอาหารไม่ต้องเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะอย่างน้อย 2 เมตร ร้านค้าต่าง ๆ ไม่ต้องจำกัดจำนวนลูกค้าที่จะเข้ามาในร้านอีกต่อไป

อย่างไรก็ดี รัฐนิวยอร์ก ยังคงมาตรการบางส่วนเอาไว้ เช่น การต้องสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียน รถไฟใต้ดิน สนามกีฬาขนาดใหญ่ ที่พักคนเร่ร่อน บ้านพักคนชรา และเรือนจำ ทั้งชาวนิวยอร์ก ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ยังคงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ขณะอยู่ในอาคารสาธารณะต่อไป

จนถึงขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า จะต้องมีการฉีดวัคซีนให้กับคนจำนวนมากน้อยเท่าใด ถึงจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้นมาได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากบอกว่า จะต้องมีคนฉีดวัคซีนแล้วไม่ต่ำกว่า 70% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งข้อมูลจากรัฐบาลกลางสหรัฐ ระบุว่า ขณะนี้ รัฐนิวยอร์ก ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ให้กับกลุ่มคนทุกช่วงอายุไปแล้ว 50% ของจำนวนประชากรทั้งหมด

ทางด้านดร.แอนนา เบิร์ชเตย์น ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขชุมชน จากวิทยาลัยแพทย์กรอสแมน มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ระบุว่า ไวรัสกลายพันธุ์ที่แพร่ระบาดไปมากขึ้น อาจหมายความว่า จำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้กับประชากรมากถึง 85% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ถึงจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมาได้

พร้อมกันนี้ เธอยังเรียกร้องให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการรวมตัวอย่างหนาแน่น อย่ารวมตัวในอาคารที่มีการระบายอากาศย่ำแย่ ตามชุมชนที่ยังคงมีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา นิวยอร์กตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ราว 1.1 ล้านคน แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ก็ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา นิวยอร์กพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหฒ่โดยเฉลี่ย 430 รายต่อวัน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่เกิดการระบาดใหญ่ขึ้นมา ขณะที่ทั่วรัฐนั้น มีผู้ติดเชื้อ ที่ต้องเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลน้อยกว่า 620 คน แตะระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

ก่อนหน้านี้ นิวยอร์ก เคยเป็นพื้นที่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รุนแรงที่สุดในสหรัฐ และมีผู้เสียชีวิตสูงสุดเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563 ถึง 1,003 คนในวันเดียว ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็พบมากกว่าหลายพันคนต่อวัน

“สิ่งที่นิวยอร์กทำได้ พิเศษมากครับ เราเปลี่ยนจากแย่ที่สุดเป็นอันดับ 1” นายคูโอโม ระบุ โดยเมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.)  รัฐนิวยอร์กได้ประกาศปิดสถานที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของรัฐกว่า 30 แห่ง ในช่วงที่เหลือของเดือนมิถุนายน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo