ออสเตรเลียไฟเขียว ผลิตวัคซีนโควิด-19 “แอสตร้าเซนเนก้า” ในประเทศ สั่งซื้อแล้ว 50 ล้านโดส
เมื่อคืนวานนี้ (21 มี.ค.) องค์การกำกับดูแลสินค้ารักษาโรค (TGA) ของออสเตรเลีย อนุมัติวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด/แอสตร้าเซนเนก้า (University of Oxford/AstraZeneca) ที่ผลิตภายในประเทศโดยซีเอสแอล (CSL) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในเมืองเมลเบิร์น
แถลงการณ์จากองค์การฯ ระบุว่า การอนุมัติดังกล่าวถือเป็น “หมุดหมายสำคัญและน่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง” เพื่อรับมือกับโรคระบาดใหญ่ในออสเตรเลีย โดยการอนุมัติพิเศษครั้งนี้จำเป็นต่อการรับรองว่า วัคซีนที่ผลิตในประเทศมีองค์ประกอบ และประสิทธิภาพเหมือนกับวัคซีนที่ผลิตในต่างประเทศ นั่นคือมีคุณภาพในระดับเดียวกันและปราศจากสารปนเปื้อน
ทั้งนี้ ออสเตรเลียตกลงจะซื้อวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 53.8 ล้านโดส ซึ่งจะถูกผลิตโดย CSL จำนวน 50 ล้านโดส โดยองค์การฯ ระบุว่าวัคซีนที่ผลิตในประเทศตัวแรกจะออกมา “ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”
เกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กับเครือข่ายโทรทัศน์เอบีซี (ABC) ว่า “นี่เป็นขั้นตอนต่อไปที่สำคัญ กระบวนการผลิตของ CSL ได้รับอนุมัติ บ่งชี้ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ”
การอนุมัติดังกล่าวคาดว่า จะช่วยเร่งกระบวนการผลิตวัคซีนในออสเตรเลียได้อย่างมีนัยสำคัญ ขณะออสเตรเลียจะเริ่มฉีดวัคซีน ระยะ 1บี (1B) ให้ประชาชนมากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งรวมถึงผู้สูงอายุ แรงงานทักษะเฉพาะ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ตั้งแต่วันนี้ (22 มี.ค.) เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักสาธารณสุขระบุว่าออสเตรเลียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 29,196 ราย เมื่อนับถึงบ่ายวานนี้ (21 มี.ค.) โดยช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้า ไม่พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่น แต่พบผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ 4 ราย
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โฆษกรัฐบาล’ เผยล่าสุดทั่วประเทศมีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 62,941 ราย
- วิวัฒนาการไวรัสกลายพันธุ์ ‘หมอยง’ ย้ำ ให้วัคซีนเร็ว ลดการระบาด- แตกสายพันธุ์ใหม่
- นายกฯ ปากีสถานติดโควิด-19 หลังฉีดวัคซีนโดสแรก 2 วัน