World News

ผลวิจัยชี้ คนอังกฤษกว่า 25% อาจติดเชื้อโควิด-19 แล้ว

มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ของสหราชอาณาจักร เผยแพร่ผลการศึกษาฉบับใหม่ ซึ่งระบุว่าประชากรในสหราชอาณาจักรมากกว่า 25% มีแนวโน้มป่วยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แล้ว

คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยฯ โรงพยาบาลซัลฟอร์ด รอยัล ในเครือเฟาเดชันทรัสต์ ของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) และองค์การวิจัยเรส คอนซอร์เทียม (Res Consortium) ได้ประเมินผลกระทบสะสมของการติดเชื้อนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในสหราชอาณาจักร โดยใช้ข้อมูลที่เผยแพร่โดยหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งช่วยให้คณะนักวิจัยสามารถคำนวณค่าอาร์ (R-value) หรือจำนวนประชาชนที่ติดเชื้อจากผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 1 ราย ในแต่ละพื้นที่ท้องถิ่น

Big Ben London 2

ทั้งนี้ ผลวิจัยระบุว่า ข้อมูลผู้ป่วยที่เผยแพร่โดยหน่วยงานท้องถิ่น 144 แห่ง มีค่าอาร์ต่ำกว่า 1 ในปัจจุบัน หลังเคยมากกว่า 3 ในช่วงเริ่มต้นของการระบาดเมื่อกลางเดือนมีนาคม โดยค่าอาร์ที่ลดลงเป็นผลจากการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมกับผลตามธรรมชาติของการติดเชื้อสะสมในชุมชน

เอเดรียน เฮลด์ หนึ่งในผู้ทำการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฯ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของเดือนเมษายน พบว่าประชากรในสหราชอาณาจักรมากกว่า 25% อาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว เนื่องจากไวรัสโควิด-19 เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายมาก และเป็นอันตรายอย่างยิ่งกับคนบางกลุ่ม แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มคนส่วนใหญ่จะแสดงอาการน้อยหรือไม่แสดงอาการเลย จึงไม่มีรายงานตรวจพบการติดเชื้อของประชาชนกลุ่มนี้

ด้าน ไมก์ สเตดแมน ผู้วิเคราะห์ข้อมูลจากเรส คอนซอร์เทียม กล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์ และการทดสอบแอนติบอดีในวงกว้างเท่านั้นที่จะทำให้มองเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งการสร้างแบบจำลองรูปแบบนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะนำไปสู่การเปิดเมือง

คณะผู้ทำการศึกษาให้เหตุผลว่าการยกเลิกข้อจำกัดทางสังคมเพิ่มเติมโดยเร็วที่สุดมีความสำคัญต่อการลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจในอนาคต รวมทั้งลดผลกระทบจากการควบคุมทางสังคมที่ยืดเยื้อ แต่ก็ต้องสร้างดุลยภาพระหว่างการควบคุมโรคระบาดใหญ่ในปัจจุบันและการลดการติดเชื้อระลอกใหม่ในอนาคตด้วย

Avatar photo