World News

อิหร่าน ช็อก! เจอระเบิด 2 ครั้งซ้อน ใกล้สุสานอดีตผบ. ดับกว่า 100 ศพ

เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้ง ระหว่างที่อิหร่านจัดงานรำลึกอดีตผู้บัญชาการทหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 100 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก 

สถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่านรายงานว่า เหตุระเบิดครั้งแรก และครั้งที่สองซึ่งเกิดขึ้นห่างกันราว 20 นาที ในจุดที่อยู่ใกล้กับสุสานของพล.ต.กาส์เซม สุไลมานี ผู้ถูกสังหารใกล้สนามบินที่กรุงแบกแดด ระหว่างการโจมตีทางอากาศโดยโดรนของสหรัฐ ที่มีการจัดงานรำลึกครั้งที่ 4 อยู่ ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุรุนแรงดังกล่าว

อิหร่าน

วีโอเอ รายงานว่า ประธานาธิบดีอิบราฮิม ระอีซี แห่งอิหร่าน ออกมาประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นอาชญากรรมอันแสนชั่วร้าย และไร้มนุษยธรรม ขณะที่หลายประเทศ อาทิ รัสเซีย และตุรกี ออกมาประณามการก่อเหตุรุนแรงในอิหร่านอย่างถ้วนหน้า ส่วนเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้นำตัวผู้อยู่เบื้องหลังมาลงโทษด้วย

ทางด้าน นายบาห์ราม เอย์โนลลาฮิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 95 คน จากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานตัวเลขอยู่ที่ 103 คน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 211 คน ส่งผลให้เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บสูงสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ

ในอดีต อิหร่านมักกล่าวโทษว่า ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุรุนแรงคือ อิสราเอล ซึ่งไม่เคยปฏิเสธ หรือยอมรับคำกล่าวนี้ แต่ในครั้งนี้ ไม่มีข้อบ่งชี้ว่า มีรัฐต่างชาติเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดใกล้สุสานของพลตรีสุไลมานี

คลิปวิดีโอที่สื่อรัฐบาลอิหร่านเผยแพร่ออกมา แสดงให้เห็นภาพของร่างผู้คนหลายสิบคนจมกองเลือด ขณะที่ ผู้เห็นเหตุการณ์พยายามเข้าช่วยผู้รอดชีวิต และบางส่วนก็พยายามเร่งหนีออกจากที่เกิดเหตุอยู่

เจ้าหน้าที่กู้ภัยของสภาเสี้ยววงเดือนอิหร่าน ได้เร่งทำแผลให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีประชาชนเข้าร่วมงานรำลึกพล.ต.กาส์เซม สุไลมานี หลายร้อยคน โดยสื่ออิหร่านบางแห่งรายงานว่า ตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บที่แท้จริงนั้นสูงกว่าที่มีการเปิดเผยออกมาด้วย

อิหร่าน

หลังเกิดเหตุไม่นาน สื่อรัฐบาลอิหร่านประกาศว่า มีการอพยพผู้คนออกจากสุสานที่เกิดเหตุหมดแล้ว และมีการสั่งปิดสุสานไว้จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง โดยรัฐบาลได้ประกาศให้วันนี้ (4 ม.ค.) เป็นวันแห่งการรำลึกถึงผู้สูญเสียในเหตุการณ์ความรุนแรงนี้แล้ว

แม้ทางการอิหร่านจะยังไม่ได้ออกมาชี้ตัวว่า ใครน่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุนี้ แต่เอสมาอิล คานิ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน กล่าวว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของ “ตัวแทนของอิสราเอลและสหรัฐ”

ภาพข่าวของสถานีโทรทัศน์รัฐบาลยังแสดงให้เห็นภาพผู้คนมารวมตัวที่บริเวณสุสานในช่วงค่ำวานนี้ (3 ม.ค.) พร้อมร้องตะโกนไล่ให้อิสราเอล และอเมริกาไปตาย ด้วย

อย่างไรก็ดี นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า สหรัฐไม่พบข้อมูลใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า อิสราเอลคือผู้ก่อเหตุดังกล่าว เช่นเดียวกับนายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันว่า สหรัฐไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดในอิหร่านแต่อย่างใด และไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อว่า อิสราเอลเป็นผู้ลงมือด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน แถลงว่า รัฐบาลกรุงเตหะรานจะใช้หนทางระหว่างประเทศทั้งหลาย เพื่อระบุตัวและนำผู้ที่เกี่ยวข้องในการโจมตีนี้ รวมทั้งบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะที่ประธานาธิบดีระอีซี ได้ยกเลิกแผนการเยือนตุรกีแล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo