World News

ราคาน้ำมัน WTI ร่วงสุดรอบ 4 เดือน กังวลเศรษฐกิจสหรัฐ-จีนชะลอตัว

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (16 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ร่วงแตะระดับสุดรอบ 4 เดือน เหตุนักลงทุนกังวลแนวโน้มความต้องการในตลาดโลก หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และจีน

ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 3.76 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 72.90.ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนมกราคม ราคาลดลง 3.76 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 77.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยทั้ง 2 ชนิด ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ราคาน้ำมัน

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.6% ในเดือนตุลาคม และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐชะลอตัวลง

นอกจากนี้ สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกปรับตัวลง 0.1% ในเดือนตุลาคม ลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ผลกระทบจากการลดลงของยอดขายรถยนต์และเฟอร์นิเจอร์

ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนรายงานว่า ราคาบ้านใหม่ใน 70 เมืองของจีนลดลง 0.38% ในเดือนที่แล้ว ลดลงมากสุดในรอบ 8 ปี และเป็นการส่งสัญญาณว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนกำลังทรุดตัวลงรุนแรงมากขึ้น แม้ว่ารัฐบาลพยายามที่จะฟื้นฟูความต้องการในภาคส่วนดังกล่าวก็ตาม

ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล และการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในเดือนตุลาคม พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo