ราคาหุ้นของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 2% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐวันนี้ (31 ต.ค.) หลังบริษัทประสบภาวะขาดทุนรายไตรมาสเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
รายงานระบุว่า ราคาหุ้นไฟเซอร์ล่าสุดร่วงลง 2.03% มาอยู่ที่หุ้นละ 29.93 ดอลลาร์ หลังบริษัทเปิดเผยว่า ในไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทอยู่ในภาวะขาดทุนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา เพราะยอดขายยา และวัคซีนที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ลดลง
ไฟเซอร์ ระบุว่า ในไตรมาส 3 ยอดขายยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 ดิ่งลงถึง 97% มาอยู่ที่ 202 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ร่วงลงมาอยู่ที่ 1,310 ล้านดอลลาร์ จาก 4,400 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ไฟเซอร์รายงานตัวเลขขาดทุนไตรมาส 3 ที่ 2,380 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 42 เซนต์ เทียบกับที่เคยทำกำไร 1.51 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาส 3 ของปี 2565 โดยมีรายได้อยู่ที่ 13,230 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 13,340 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ไฟเซอร์ได้ตัดมูลค่าทางบัญชีของสต็อกยาแพกซ์โลวิด และวัคซีนป้องกันโควิด-19 คิดเป็นวงเงิน 5,600 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีการใช้ยาแพกซ์โลวิดและวัคซีนโควิด-19 ต่ำกว่าคาด
นอกจากนี้ ยังได้ลดคาดการณ์ยอดขายในปีนี้ ลงมา 9,000 ล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 58,000-61,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่บริษัททำข้อตกลงที่จะรับคืนยาแพกซ์โลวิดจำนวนเกือบ 8 ล้านคอร์สจากรัฐบาลสหรัฐ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไฟเซอร์’ แจ้งเตือนสหรัฐ ‘ยาปฏิชีวนะเด็ก’ อาจขาดตลาด
- ‘โมเดอร์นา’ ฟ้อง ไฟเซอร์ ลอก ‘เทคโนโลยี mRNA’ ที่ใช้ผลิตวัคซีนโควิด
- ‘ไฟเซอร์’ คาด ‘โควิด-19’ ระบาดยืดเยื้อถึงปี 67