‘อียู’ เสนอเก็บภาษี ‘อภิมหาเศรษฐี’ ทั่วโลก เพิ่มรายได้ 250,000 ล้านดอลล์

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 24 ตุลาคม 2566

สถาบันคลังสมอง ของสหภาพยุโรป (อียู) เสนอแหล่งรายได้ใหม่สำหรับรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ด้วยการเก็บภาษีบรรดามหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์

รายงานที่ชื่อว่า 2024 Global Tax Evasion Report ของสถาบัน EU Tax Observatory ชี้ว่า รัฐบาลทั่วโลกควรร่วมมือกัน ป้องกันการหลบเลี่ยงภาษี และจัดทำอัตราภาษีขั้นต่ำสากล สำหรับมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะช่วยระดมเงินรายได้ถึง 250,000 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกในแต่ละปี

อัตราภาษีใหม่นี้คำนวณจากสัดส่วนราว 2% ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดเกือบ 13 ล้านล้านดอลลาร์ของมหาเศรษฐีพันล้านทั่วโลกจำนวนประมาณ 2,700 คน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมากแก่รัฐบาลต่าง ๆ

รายงานชี้ด้วยว่า ที่ผ่านมามหาเศรษฐีพันล้าน มักเสียภาษีในอัตราต่ำกว่าประชาชนทั่วไป เนื่องจากคนรวยเหล่านั้น มีช่องทางเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ ที่ช่วยให้เขาสามารถนำเงินไปเก็บไว้บริษัทเปลือกนอก หรือในบัญชีในต่างประเทศ เพื่อเลี่ยงการจ่ายภาษีในประเทศของตนเอง

EU Tax Observatory ระบุว่า ปัจจุบันอัตราภาษีที่บรรดามหาเศรษฐีต้องจ่ายนั้นอยู่ที่ระดับประมาณ 0.5% ในสหรัฐ และเกือบ 0% ในฝรั่งเศส

วีโอเอ รายงานว่า ขณะนี้หลายประเทศพยายามหาวิธีเก็บภาษีคนร่ำรวยเพิ่มขึ้น เช่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เสนอเก็บภาษีขั้นต่ำ 25% สำหรับคนอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุด 0.01% แรก แต่คาดว่าข้อเสนอดังกล่าวจะไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาสหรัฐ

ในระดับทั่วโลก เมื่อปี 2564 ผู้แทนจาก 140 ประเทศบรรลุข้อตกลงกำหนดภาษีขั้นต่ำ 15% สำหรับบริษัทต่าง ๆ เพื่อจำกัดความสามารถของบรรดาบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ที่ใช้วิธีโยกย้ายผลประกอบการไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำกว่า เพื่อให้เสียภาษีน้อยลง

นายแกเบรียล ซัคแมน นักเศรษฐศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ผู้อำนวยการ EU Tax Observatory กล่าวว่า สิ่งที่คนจำนวนมากมองว่าเป็นไปไม่ได้อาจสามารถกลายเป็นความจริงได้ โดยขั้นต่อไปคือการนำแนวคิดนี้ไปใช้กับมหาเศรษฐีในประเทศต่าง ๆ ไม่ใช่แค่บริษัทข้ามชาติเท่านั้น