ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (7 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ลดลงเล็กน้อย เหตุนักลงทุนวิตกถึงความต้องการในจีน และสหรัฐ 2 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกลดลง
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 88 เซนต์ หรือ 1.06% ปิดที่ 81.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม ราคาลดลง 90 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 85.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital กล่าวว่า นักลงทุนเทขายน้ำมันทำกำไร หลังราคาปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ติดต่อกันเป็นเวลายาวนานถึง 6 สัปดาห์
ทั้งตลาดยังถูกกดดันจากฤดูการขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อนของสหรัฐ ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงต้นเดือนกันยายน รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน
การแข็งค่าของดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบ ซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน ที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ดีดตัวขึ้น หลังจากนางมิเชล โบว์แมน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของจีนในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินท่าทีของรัฐบาลจีนในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยในวันนี้ (8 ส.ค.) ทางการจีนจะเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนกรกฎาคม ส่วนในวันพุธ (9 ส.ค.) จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนกรกฎาคม
ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูการเปิดเผยดัชนี CPI ของสหรัฐในวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ฟิทช์’ หั่นอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐ ชี้ ‘คลังถดถอย-หนี้จ่อพุ่ง’
- ‘ไออีเอ’ ชี้ ‘ตลาดน้ำมันโลก’ จ่อตึงตัว เหตุความต้องการจากจีน-โอเปคลดผลิต
- เริ่ม ก.ค. นี้! ‘ซาอุดีอาระเบีย’ ลดผลิตน้ำมันวันละ 1 ล้านบาร์เรล หวังพยุงราคา