ธุรกิจในกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสหรัฐ และเป็นที่ตั้งของหน่วยงานรัฐบาลกลาง กำลังสูญเสียลูกค้าหลัก ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากนโยบายทำงานที่บ้าน หรือ เวิร์ค ฟอร์ม โฮม (work from home)
แคสเซิล (Kastle) บริษัทผู้ผลิตบัตรผ่านพนักงานให้แก่บริษัททั่วสหรัฐ 40,000 แห่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้คนทำงานในกรุงวอชิงตัน มาทำงานที่สำนักงานไม่ถึงครึ่งหนึ่งของช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19
ขณะที่โคสตาร์ (CoStar) บริษัทข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เผยว่า ตลาดสำนักงานในกรุงวอชิงตันกำลังจะตาย และหากไม่สามารถทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง กลับมาที่สำนักงานได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันก็เตรียมตัวบอกลาได้
ทางด้านสำนักงานรองนายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ด้านการวางแผน และการพัฒนาเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า หน่วยงานรัฐบาลกลางครองพื้นที่เชิงพาณิชย์ในย่านใจกลางเมืองเกือบ 1 ใน 4 ซึ่งการทำงานที่บ้าน ทำให้อัตราพื้นที่ว่างเชิงพาณิชย์ในย่านนี้สูงเกือบ 18% หรือเกือบ 2 เท่าของปี 2561
เจ้าหน้าที่การเงินของกรุงวอชิงตันประเมินว่า เมืองจะสูญเสียรายได้ราว 500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 17,297 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพราะจัดเก็บภาษีที่ดินได้น้อยลง
ส่วนสหพันธ์ลูกจ้างรัฐบาลอเมริกัน ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของคนทำงานภาครัฐ ทั้งระดับรัฐบาลกลาง และท้องถิ่น ระบุว่า คนทำงานได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าชอบการทำงานจากบ้าน คนทำงานให้รัฐบาลกลางต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อหน่วยงาน และประชาชน ไม่ใช่เพื่อเจ้าของร้านอาหารในกรุงวอชิงตัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สายการบิน’ เร่งปรับตัว รับ ‘พฤติกรรมผู้โดยสาร’ เปลี่ยน หลังโควิด-19 ระบาด
- ‘อังกฤษ’ ผ่อนคุมโควิด เลิกบังคับ ‘ใส่หน้ากาก-ทำงานที่บ้าน’ ชี้ ‘โอไมครอน’ ผ่านจุดระบาดสูงสุดแล้ว
- นักเศรษฐศาสตร์ชี้วิถี ‘Work from Home’ กำลังทำลายความคิดสร้างสรรค์