World News

สื่อนอกชี้ เส้นทาง ‘พิธา’ นั่งเก้าอี้ ‘นายกรัฐมนตรี’ ไม่ใช่เรื่องง่าย

สื่อนอกตีข่าว “พิธา” พา “ก้าวไกล” คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้ง ส.ส. จ่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย แต่ระบุ เส้นทางสู่เก้าอี้ไม่ง่ายนัก 

บรรดาสื่อต่างประเทศ ต่างพากันรายงานข่าวถึงผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของไทย ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (14 พ.ค.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” นำพรรคก้าวไกลคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย

พิธา

หนังสือพิมพ์เดลี เมล ของอังกฤษ ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีน้อยคนที่คิดว่า พิธา จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของไทย กระทั่งผลการเลือกตั้งชี้ว่า พรรคก้าวไกล ที่มุ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงราก มีคะแนนนำพรรคที่ตั้งมานาน อย่างพรรคเพื่อไทย

เดลี เมล ระบุว่า พิธา วัย 42 ปี ได้ปรากฏตัวอย่างไม่หยุดนิ่งบนเส้นทางการหาเสียง โดยใช้ประโยชน์จากวัยหนุ่ม และพลังของเขา เพื่อเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ท้อแท้และโหยหาการเปลี่ยนแปลง หลังจาก 8 ปีของรัฐบาล ที่มีทหารหนุนหลัง ด้วยการประกาศว่า การลงคะแนนให้พรรคก้าวไกลคือการเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ เป็นการทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องบอกว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคเดียวที่ต้องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

รายงานข่าวให้รายละเอียดด้วยว่า พิธา สำเร็จการศึกษาจากนิวซีแลนด์ และสหรัฐ เขาศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดด้วยทุนการศึกษานานาชาติ ก่อนที่จะก้าวไปสู่การเป็นผู้ประกอบการ

หลังจากบิดาเสียชีวิต ในขณะที่เขาอายุได้ 25 ปี พิธาก็เข้ามารับผิดชอบธุรกิจที่เกี่ยวกับการเกษตร และอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวของครอบครัว ทำให้โชคชะตาพลิกผัน ต่อมาเขาได้เป็นกรรมการบริหารของแอปขนส่ง แกร็บ ประเทศไทย ในปี 2555

เขาแต่งงานกับชุติมา ทีปะนาถ นักแสดงโทรทัศน์ชาวไทย และมีลูกสาวอายุ 7 ขวบ การแต่งงานยุติลงในปี 2562 ลูกสาวของเขาได้ปรากฏตัวอย่างเด่นชัดในการหาเสียงโดยพิธาพาเธอขึ้นเวทีหลังการกล่าวปราศรัย สร้างความพึงพอใจให้กับฝูงชนอย่างมาก

พิธา

ขณะที่ทางสื่อสังคมออนไลน์ เขาใช้บัญชีส่วนตัวแบบสาธารณะ ตามด้วยผู้ใช้เกือบหนึ่งล้านคน เพื่อแชร์ภาพของเขา และลูกสาวสวมเสื้อยืดที่เข้าชุดกันและกินไอศกรีมด้วยกัน

อย่างไรก็ดี เดลี เมล ระบุว่า ถึงแม้จะประสบความสำเร็จในช่องลงคะแนน ก็ไม่มีข้อบ่งชี้ว่า พิธาจะสามารถมุ่งสู่เส้นทางการเป็นนายกรัฐมนตรีได้ง่าย ๆ  ตอนนี้เขาต้องรวบรวมพันธมิตรเข้าด้วยกัน เพื่อเอาชนะสมาชิกวุฒิสภา ที่ฝ่ายรัฐบาลเดิมตั้งขึ้นมา ซึ่งจะมาร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีของไทย จากบรรดาผู้สมัคร

ขณะที่แชนแนล นิวส์ เอเชีย รายงานว่า นายพิธา ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของไทย และกำลังจะกลายเป็นพรรคที่มีบทบาทนำในการตั้งรัฐบาล หลังประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ ปฏิเสธการปกครองของรัฐบาลทหาร ที่ครองประเทศมาเกือบ 1 ทศวรรษ

ส่วน เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ของสหรัฐ รายงานถึงการเลือกตั้งในไทยว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะเป็นการยุติการเรืองอำนาจของรัฐบาลทหาร โดยพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ท่ามกลางความประหลาดใจ เพราะได้ส.ส.มากกว่า พรรคเพื่อไทย ที่มี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สนับสนุน และยังสามารถเอาชนะในพื้นที่ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทยได้ด้วย

ขณะที่ เดอะ การ์เดี้ยน รายงานข่าวผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ของไทย ไปในทิศทางเดียวกันว่า ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น เป็นการปลดแอกประเทศจากการบริหารของรัฐบาลทหาร จากการนับคะแนนที่เสร็จสิ้นไปกว่า 99% พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมฝ่ายค้านมีคะแนนนำโด่งพรรคพันธมิตรทหาร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo