องค์การการค้าโลก (WTO) รายงานสถิติและแนวโน้มทางการค้ารายปี เมื่อวันพุธ (5 เม.ย.) ระบุว่าการเติบโตของการค้าโลกในปี 2023 จะชะลอตัวอยู่ที่ 1.7% ผลกระทบจากความขัดแย้งในยูเครน ภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง นโยบายการเงินที่ และความไม่แน่นอนของตลาดการเงิน
ทว่าตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของการค้าโลกในปี 2023 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน อยู่ที่ 1.0% โดยมีการปรับเปลี่ยนมาตรการรับมือโรคระบาดใหญ่ของจีนเป็น “ปัจจัยหลัก” และคาดว่าการกลับมาเปิดประเทศของจีนจะกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศ
ปริมาณการค้าโลกเติบโต 2.7% เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากถูกฉุดรั้งด้วยการหดตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาส 4 (ตุลาคม-ธันวาคม) ของปีก่อน
ทีมนักเศรษฐศาสตร์ขององค์การฯ ระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ทั่วโลก ณ อัตราแลกเปลี่ยนของตลาด จะเติบโต 2.4% ในปี 2023 ขณะเดียวกันตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของการค้าและจีดีพีในปี 2023 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของช่วง 12 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 2.6% และ 2.7% ตามลำดับ
“ผลกระทบยืดเยื้อจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงยิ่งขึ้น ถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลเสียต่อการค้าและผลผลิตในปี 2022 ซึ่งมีแนวโน้มเดียวกันนี้ในปี 2023 เช่นกัน” ราล์ฟ ออสซา หัวหน้าทีมนักเศรษฐศาสตร์ขององค์การฯ กล่าว
ออสซากล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่ดีดขึ้นในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว เผยความอ่อนแอของระบบธนาคาร อาจนำสู่ความไร้เสถียรภาพทางการเงินยิ่งขึ้นหากไม่ถูกตรวจสอบ โดยรัฐบาลและผู้กำกับควบคุมต้องจับตาความเสี่ยงทางการเงินเหล่านี้และอื่นๆ ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
“การค้ายังคงเป็นพลังความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจโลก แต่จะยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกในปี 2023 จึงเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นที่รัฐบาลต่างๆ จะหลีกเลี่ยงการแบ่งแยกทางการค้าและละเว้นการสร้างอุปสรรคทางการค้า” เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวียลา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การฯ กล่าว
“การลงทุนด้านความร่วมมือพหุภาคีทางการค้าอย่างที่สมาชิกองค์การฯ ได้ดำเนินการ ณ การประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 12 เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน จะกระตุ้นการเติบโตทางการค้าและมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว” โอคอนโจ-อิเวียลากล่าว
รายงานสถิติและแนวโน้มทางการค้ารายปีขององค์การฯ ระบุว่าการเติบโตของการค้าโลกควรฟื้นตัวอยู่ 3.2% ในปี 2024 ขณะการเติบโตของจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็น 2.6%
อย่างไรก็ดี ตัวเลขคาดการณ์นี้ไม่แน่นอนกว่าปกติเพราะสารพัดความเสี่ยงเศรษฐกิจขาลง เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อุปทานอาหารชะงักงัน และความเป็นไปได้ของการเกิดผลกระทบที่ไม่เคยพานพบมาก่อนจากการรัดเข็มขัดทางการเงิน
ที่มา:สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เอดีบี’ คาดปี 66 เศรษฐกิจกำลังพัฒนาเอเชีย โต 4.8% ไทยขยายตัว 3.3% หลัง ‘จีน’ เลิกนโยบาย ‘โควิดเป็นศูนย์’
- ‘เศรษฐีจีน’ แห่ปรับพอร์ต เน้น ‘ลงทุนต่างประเทศ’ จำกัดความเสี่ยง ‘ขาดทุน’ ในบ้านเกิด
- ‘จีน’ ไฟเขียวต่างชาติเข้าลงทุนธุรกิจ ‘ท่องเที่ยว-ดูแลผู้สูงวัย’