ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น พุ่งแตะ 77 ดอลลาร์ แรงหนุนจากความหวังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หลังจีนเปิดประเทศ
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 2.29 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 77.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนมีนาคม ราคาเพิ่มขึ้น 2.57 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 82.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์ ระบุว่า นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่า การเปิดประเทศของจีนจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจทั่วโลก และจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัวขึ้นด้วย โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ประจำเดือนธันวาคมในวันนี้ (12 ม.ค.) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีซีพีไอทั่วไป รวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 6.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจากระดับ 7.1% ในเดือนพฤศจิกายน
ทำให้มีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ย และจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคา เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ จะทำให้น้ำมันดิบ ซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
น้ำมัน WTI ปิดตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แม้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) จะรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 19 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.2 ล้านบาร์เรล
อ่านข่าวเพิ่มเติม