ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ วานนี้ (7 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ร่วง 4 วันติด นักลงทุนกังวล ความต้องการในสหรัฐลด หลังสต็อกน้ำมันเบนซิน-น้ำมันกลั่น เพิ่มเกินคาด
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.24 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 72.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ราคาลดลง 2.18 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 77.17 ดอลลาร์บาร์เรล
น้ำมันดิบราคาร่วงลง หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเพียง 2.9 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล พุ่งขึ้น 6.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล สำหรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากความกังวลว่า การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยและจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ ขณะที่การคาดการณ์ส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันในการประชุม 4 ครั้งที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ซาอุดีอาระเบีย’ ลดราคา น้ำมันให้ ‘ลูกค้าเอเชีย’ หลังเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัว
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด น้ำมันดิบ ราคาดีดถึง 115 ดอลลาร์ ต้นปี 66 เหตุ ‘โอเปคพลัส’ ลดผลิตครั้งใหญ่
- ไม่สนแรงกดดัน! ‘โอเปคพลัส’ หั่นกำลังผลิตน้ำมันวันละ 2 ล้านบาร์เรล หวังดันราคา