Stock

‘ดาวโจนส์’ แทบไม่เคลื่อนไหว ลดลง 7 จุด หลังเจ้าหน้าที่เฟด หนุนเร่งขึ้นดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (17 พ.ย.) โดยที่ “ดาวโจนส์” ขยับลงเล็กน้อย หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนักลงทุนยังกังวลว่า ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐ จะยิ่งผลักดันให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,546.32 จุด ลดลง 7.51 จุด หรือ -0.02% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,946.56 จุด ลดลง 12.23 จุด หรือ -0.31% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 11,144.96 จุด ลดลง 38.70 จุด หรือ -0.35%

ดาวโจนส์

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ ยังไม่ได้อยู่ในกรอบที่ถือว่ามีการคุมเข้มมากเพียงพอ

“แม้ว่าเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่กรอบ 3.75% – 4.00% ในปีนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับที่เฟดมองว่า มีการคุมเข้มมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งกรอบอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับคุมเข้มอย่างมีประสิทธิภาพก็คือ 5%-7%”

ทางด้านนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ แสดงความเห็นว่า เฟดอาจจะต้องทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงเพื่อให้เงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงมีความตึงตัว

นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานจะยิ่งทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย มาอยู่ที่ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 19% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 15% อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo