Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดขยับขึ้นไม่ถึง 100 จุด ‘แนสแด็ก’ พุ่งเกิน 1% ขานรับข้อมูล ‘เงินเฟ้อ’ ต่ำเกินคาด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (15 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ปรับขึ้นเล็กน้อย ส่วน “แนสแด็ก” พุ่งกว่า 100 จุด ขานรับข้อมูลเงินเฟ้อ ที่ขยับขึ้นน้อยกว่าคาด ทำให้มีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะลดระดับการขึ้นดอกเบี้ย

แต่ข่าวจรวดรัสเซีย ยิงข้ามพรมแดนเข้าไปในโปแลนด์ สร้างความผันผวนให้กับตลาดในช่วงท้ายของการซื้อขาย

ดาวโจนส์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,592.92 จุด ขยับขึ้นมา 56.22 จุด หรือ 0.17% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,991.73 จุด ปรับขึ้น 34.48 จุด หรือ 0.87% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,358.41 จุด พุ่ง 162.19 จุด หรือ 1.45%

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ที่พุ่งขึ้น 8% ในช่วง 12 เดือน นับถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา น้อยกว่าที่ประเมินกันไว้ว่า จะปรับขึ้น 8.3% และหากไม่นับรวมราคาพลังงาน และอาหารที่มีความผันผวนสูงแล้ว ดัชนีปรับขึ้น 5.4% ต่อปี ในเดือนตุลาคม หลังเพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนกันยายน

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ข้อมูลดังกล่าว ยิ่งทำให้ตลาดมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อ เริ่มที่จะปรับลดลงมาแล้ว ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในระดับที่ลดลง

ล่าสุด เทรดเดอร์ให้น้ำหนักมากถึง 85.4% ว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ จากเดิมที่ให้น้ำหนักไว้ 80.6%

อย่างไรก็ตาม ขาขึ้นของหุ้นถูกฉุด จากข่าวที่รัสเซียยิงจรวด เข้าไปตกในหมู่บ้านเซโวดูป ทางตะวันออกของโปแลนด์ ที่อยู่ใกล้กับพรมแดนยูเครน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย

ข่าวดังกล่าวสร้างความผันผวนให้กับการซื้อขายในช่วงบ่าย ท่ามกลางความกังวลว่า สถานการณ์อสู้รบในพื้นที่ อาจย่ำแย่ลงไปอีก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo