ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (9 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งแรงกว่า 600 จุด ท่ามกลางความกังวลถึงผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ ที่ยังไม่ชัดเจนว่าพรรคใดจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส ทั้งการร่วงลงอย่างหนักของ “คริปโทเคอร์เรนซี” ยังสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,513.94 จุด ร่วงลง 646.89 จุด หรือ -1.95% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,748.57 จุด ลดลง 79.54 จุด หรือ -2.08% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,353.18 จุด ดิ่งลง 263.03 จุด หรือ -2.48%
นักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า พรรครีพับลิกันจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งจะคานอำนาจฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการออกกฎหมายต่าง ๆ รวมถึง การขึ้นภาษี แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า พรรคใดจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส ส่งผลให้ตลาดผันผวนอย่างมาก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของราคาคริปโทเคอร์เรนซี รวมถึง บิตคอยน์ หลังมีรายงานว่า ไบแนนซ์ ตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) สร้างความกังวลถึงปัญหาสภาพคล่องของเอฟทีเอ็กซ์
หุ้นเทสลา ร่วงลง 7.17% ท่ามกลางรายงานข่าวว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทขายหุ้นอย่างน้อย 3,950 ล้านดอลลาร์ หลังจากปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์ มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ไม่กี่วัน
ส่วนหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ดิ่งลง 13.16% จากการที่บริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 30 เซนต์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 55 เซนต์ พร้อมเตือนว่าจำนวนสมาชิกดิสนีย์พลัส (Disney+) อาจชะลอตัวลงในไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2566
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของสหรัฐในวันนี้ (10 พ.ย.) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีซีพีไอทั่วไป จะปรับตัวขึ้น 7.9% ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากระดับ 8.2% ในเดือนกันยายน และคาดว่าซีพีไอพื้นฐาน ไม่นับรวมราคาหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 6.5% ในเดือนที่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ปี 66 โตเพียง 2.7% ‘อาเซียน 5’ ขยายตัว 4.9% เตือนเศรษฐกิจถดถอย
- ‘ยูเอ็นดีพี’ เตือน ‘ประเทศกำลังพัฒนา’ กำลังเจอวิกฤติหนี้ ชี้ต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือทันที
- ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘ค่าเงินเอเชีย’ อ่อนค่าลงอีก หลัง ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง