ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (8 พ.ย.) โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 จากแรงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ก่อนรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ นักลงทุนยังจับตา การเปิดข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค ในวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อ และทิศทางอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,160.83 จุด เพิ่มขึ้น 333.83 จุด หรือ +1.02% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,828.11 จุด เพิ่มขึ้น 21.31 จุด หรือ +0.56% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 10,616.20 จุด เพิ่มขึ้น 51.68 จุด หรือ +0.49%
ชาวอเมริกันได้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจำนวน 435 ที่นั่ง และวุฒิสภา 35 ที่นั่ง เมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) ขณะผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การจะรู้ว่าพรรคใดได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอมนั้นอาจต้องใช้เวลาหลายวัน
โพลล์ส่วนใหญ่ พบว่า พรรครีพับลิกันจะสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ส่วนการเลือกตั้งในวุฒิสภาจะเป็นไปอย่างสูสี โดยนักวิเคราะห์หลายรายกล่าวว่า นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะชอบผลการเลือกตั้งในลักษณะ “Gridlock” หรือ ไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส ซึ่งจะช่วยคานอำนาจของคณะบริหารในการออกกฎหมายต่าง ๆ รวมถึง กฎหมายภาษี
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มในดัชนีเอส แอนด์พี 500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มวัสดุ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนร่วงลง หลังมีรายงานว่า ไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่สุดของโลก บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ เอฟทีเอ็กซ์ (FTX) แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโท
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของสหรัฐ ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค และเป็นข้อมูลที่เฟดใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ซึ่งหาก CPI ออกมาสูงกว่าการคาด ก็อาจผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ปี 66 โตเพียง 2.7% ‘อาเซียน 5’ ขยายตัว 4.9% เตือนเศรษฐกิจถดถอย
- ‘ยูเอ็นดีพี’ เตือน ‘ประเทศกำลังพัฒนา’ กำลังเจอวิกฤติหนี้ ชี้ต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือทันที
- ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘ค่าเงินเอเชีย’ อ่อนค่าลงอีก หลัง ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง