ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (4 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งขึ้นกว่า 400 จุด หลังตัวเลข “ว่างงาน” เพิ่มมากขึ้น ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า “เฟด” อาจชะลอขึ้นดอกเบี้ย ประกอบกับกระแสข่าวว่า จีนอาจจะเปิดประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,403.22 จุด เพิ่มขึ้น 401.97 จุด หรือ +1.26% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,770.55 จุด เพิ่มขึ้น 50.66 จุด หรือ +1.36% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,475.26 จุด เพิ่มขึ้น 132.31 จุด หรือ +1.28%
ตลาดปรับตัวขึ้นหลังจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐบ่งชี้ว่า อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ซึ่งแสดงถึงสัญญาณการชะลอตัวในตลาดแรงงาน และอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถปรับลดอัตราการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 200,000 ตำแหน่ง แต่ก็ชะลอตัวจากจำนวน 315,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนกันยายน
ตลาดยังได้แรงหนุน จากการที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาเกี่ยวกับการหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
บรรดานักลงทุนคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนธันวาคม หลังจากการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักราว 62% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 51.5%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากกระแสข่าวที่ว่า จีนกำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และอาจมีการเปิดประเทศในเดือนมีนาคม 2566
นายหาว ฮง นักเศรษฐศาสตร์ของจีน ทวีตข้อความว่า ทางการจีนกำลังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการเปิดประเทศ และกำลังทบทวนข้อมูลด้านโควิด-19 ในต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์หากมีการเปิดประเทศ โดยจีนมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมโรคโควิด-19 ในเดือนมีนาคมปีหน้า
หุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐ พุ่งขึ้นขานรับข่าวดังกล่าว อาทิ หุ้นอาลีบาบา ปิดพุ่ง 7.05% และหุ้นเจดี.คอม พุ่งขึ้น 9.74% นอกจากนี้ ความหวังดังกล่าวยังช่วยพุ่งขึ้น 8.32% หลังเปิดเผยรายได้สูงเกินคาด
สำหรับในสัปดาห์หน้านั้น บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมถึงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันที่ 8 พฤศจิกายน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ปี 66 โตเพียง 2.7% ‘อาเซียน 5’ ขยายตัว 4.9% เตือนเศรษฐกิจถดถอย
- ‘ยูเอ็นดีพี’ เตือน ‘ประเทศกำลังพัฒนา’ กำลังเจอวิกฤติหนี้ ชี้ต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือทันที
- ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘ค่าเงินเอเชีย’ อ่อนค่าลงอีก หลัง ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง