นักลงทุนต่างชาติ ซื้อหุ้นไทยสูงสุดในรอบ 20 ปี เผย 10 หุ้นที่ต่างชาติซื้อสะสมมากที่สุด ตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2565
การที่ตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงนี้ แรงหนุนสำคัญที่สุดมาจากเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ที่พบว่าตั้งแต่ต้นปี 2565 นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับนักลงทุนประเภทอื่นๆ ในตลาด ซึ่งเมื่อสำรวจมูลค่าการซื้อขายหุ้นตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่ต้นปี (Year to Date) จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 มูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุน เจอสิ่งที่น่าสนใจ ดังนี้
นั่นคือ นักลงทุนต่างชาติมีอิทธิพลมากต่อการชี้นำตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ และยังเป็นกลุ่มเดียวที่มีมูลค่าซื้อขายสุทธิสูงกว่า 174,601 ล้านบาท นับเป็นสถิติที่สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี และหากย้อนดูข้อมูลจะเห็นว่าปีที่ต่างชาติซื้อสุทธิมากที่สุดคือปี 2548 จำนวน 118,000 ล้านบาท และส่วนใหญ่แล้วจะสุทธิไม่เกินปีละ 100,000 ล้านบาท
คำถามคือเกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงมี Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากมายขนาดนี้ ซึ่งจากการรวบรวมความเห็นของนักวิเคราะห์ และสถาบันทางการเงินต่างๆ ก็มีอยู่ด้วยกัน 4-5 ประเด็น ได้แก่ มองการฟื้นตัวของประเทศในอีก 1-2 ปีข้างหน้า, การคาดหวังเงินปันผลกลางปีของหุ้นพลังงานและธนาคาร, โครงสร้างตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีบริษัทเทคโนโลยีแบบหุ้น Growth เป็นหลัก แต่เป็นลักษณะของหุ้น Value ที่มีปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างดี รวมไปถึงการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
ซื้อหุ้นไทย 10 หุ้นที่ต่างชาติซื้อสะสมมากที่สุด
สำรวจการซื้อขายของบัญชี NVDR ซึ่งสะท้อนการซื้อขายหุ้นไทยของนักลงทุนต่างประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2565 พบว่ามี 10 อันดับหุ้นไทยที่นักลงทุนต่างชาติมีมูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิสะสมมากที่สุด ได้แก่
1. PTTEP หรือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
มูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิ 22,154.76 ล้านบาท
2. BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน)
มูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิ 16,091.44 ล้านบาท
3. AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
มูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิ 13,046.57 ล้านบาท
4. KBANK หรือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
มูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิ 10,539.27 ล้านบาท
5. ADVANC หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
มูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิ 9,235.65 ล้านบาท
6. BH หรือ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
มูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิ 9,225.28 ล้านบาท
7. CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
มูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิ 8,397.54 ล้านบาท
8. EA หรือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)
มูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิ 8,241.80 ล้านบาท
9. BANPU หรือ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)
มูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิ 8,090.35 ล้านบาท
10. TOP หรือ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
มูลค่าซื้อขาย NVDR สุทธิ 7,239.63 ล้านบาท
ซื้อหุ้นไทย ต่างชาติซื้อสะสมมากสุด
ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตามต่อว่าสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจไทย และเงื่อนไขต่างๆ ที่ทำให้นักลงทุนต่างชาตินำเงินเข้ามาลงทุนในไทยนั้นจะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่จะช่วยชะลอการไหลออกของเงินลงทุนต่างชาติ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ นักลงทุนจำเป็นต้องพิถีพิถันในการเลือกหุ้นมากขึ้น โดยแนะนำให้เน้นเลือกหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง พร้อมกับมีปัจจัยเฉพาะตัวหนุนและฟื้นตัวเร็วขึ้น หรือจะทยอยสะสมหุ้นใน SET50 ที่คาดว่าเงินจะไหลเข้าและยังมีอัพไซด์ต่อเนื่อง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เจาะกลยุทธ์ หุ้นเครื่องดื่ม ‘SAPPE vs ICHI’ มุ่งเติบโต ตลาดต่างประเทศ
- นักวิเคราะห์ชู ‘หุ้น SCB ไปต่อ’! หลัง ทิ้ง Bitkub
- กำไรหุ้นไทย ไตรมาส 2/65 ทำนิวไฮ 3.46 แสนล้าน!!
