ดาวโจนส์ ปิดซื้อขายวานนี้ (1 มี.ค.) ตามเวลาในสหรัฐ ร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่ราคาน้ำมัน และทองคำ พุ่งสูงอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากชาติมหาอำนาจพร้อมใจกันคว่ำบาตรรัสเซีย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,294.95 จุด ร่วงลง 597.65 จุด หรือ 1.76%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,306.26 จุด ลดลง 67.68 จุด หรือ 1.55% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 13,532.46 จุด ร่วงลง 218.94 จุด หรือ 1.59%
การซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน และตื่นตระหนก เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายลง โดยดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้น 13.57% สู่ระดับ 34.24 เมื่อวานนี้
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 3.7% ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ดิ่งลง 3.6% แต่ ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1% หลังจากราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ทะยานขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนเมษายน พุ่งขึ้น 7.69 ดอลลาร์ หรือ 8% ปิดที่ 103.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2557 และเป็นการพุ่งขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพฤษภาคม พุ่งขึ้น 7 ดอลลาร์ หรือ 7.2% ปิดที่ 104.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2557
ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากความกังวลว่า การที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารบุกโจมตียูเครน จะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน ทั้งนักลงทุนยังมองว่า การที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) มีมติระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองจำนวน 60 ล้านบาร์เรลนั้น เป็นการตอกย้ำว่าอุปทานน้ำมันโลกมีไม่เพียงพอ ที่จะรับมือกับภาวะชะงักงันในขณะนี้
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันนี้ (2 มี.ค.) เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตสำหรับเดือนเมษายน ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า โอเปกพลัสจะมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมครั้งนี้ โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวันสำหรับเดือนเมษายน
ความกังวลในเรื่องยูเครน-รัสเซีย ยังเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ประกอบกับการร่วงลงของตลาดหุ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หนุนให้เกิดการเข้าซื้อทองคำมากขึ้น จนราคาพุ่งขึ้นอย่างมาก
ราคาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเมษายน พุ่งขึ้น 43.1 ดอลลาร์ หรือ 2.27% ปิดที่ 1,943.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2564
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘รัสเซีย’ ถล่ม ‘ท่อส่งก๊าซ-คลังน้ำมัน’ ยูเครน เกิดระเบิดใหญ่ เตือนประชาชนเจอ ‘ควันพิษ’
- ‘กสิกรไทย’ จับตา ‘วิกฤติยูเครน-คว่ำบาตรรัสเซีย’ กระทบ ‘ส่งออก-เศรษฐกิจ’ ไทย
- ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ ยืนยันยุติ ‘คิวอี’ ตามแผนเดิม