ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (30 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ หลังข้อมูลแสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ร่วงลง ทำให้นักลงทุนคลายกังวลมากขึ้นว่า เศรษฐกิจจะไม่ได้รับความเสียหายมากนัก จากการระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 36,534.60 จุด ปรับขึ้น 45.97 จุด หรือ 0.13% หลังจากที่ในช่วงเปิดตลาดทะยานขึ้นไปกว่า 100 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,803.85 จุด ขยับขึ้น 10.79 จุด หรือ 0.23% และดัชนีแนสแด็กที่ 15,857.60 จุด บวก 91.39 จุด หรือ 0.58%
วันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 8,000 ราย มาอยู่ที่ 198,000 ราย ใกล้แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2512 เป็นต้นมา ซึ่งในขณะนั้นมีจำนวนทั้งสิ้น 182,000 ราย ทั้งตัวเลขดังกล่าว ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ราว 205,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงมอยู่ที่ 199,250 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2512
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 140,000 ราย มาอยู่ที่ 1.72 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อเดือนมีนาคม 2563
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น สายการบิน และเรือสำราญ ต่างดีดตัวขึ้นในวันนี้ เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มธนาคารที่ดีดตัวขึ้นมา
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นของบริษัทเทสลา อิงค์ร่วงลงกว่า 1% สวนทางตลาด จากการที่ บริษัทประกาศเรียกคืนรถยนต์เกือบ 500,000 คัน เนื่องจากมีปัญหาซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เฟด’ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งปี 65 หยุดทำ ‘คิวอี’ เดือนมี.ค.
- นักเศรษฐศาสตร์ชี้ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ฟื้นตัวช้า เซ่นพิษ ‘เดลตา’ ระบาดหนัก
- จับตาตลาดป่วนรอบใหม่ นักลงทุนเริ่มกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้น