Stock

จับตาโครงการ CFP พา ‘ไทยออยล์’ ทะยานสู่ยุคทองโรงกลั่น

หากใครติดตามหุ้น TOP หรือ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) คงได้ยินชื่อของ “โครงการพลังงานสะอาด” (Clean Fuel Project : CFP) กันมาโดยตลอด เพราะถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ของบริษัท และเป็นเป้าหมายอนาคตที่จะพาบริษัทเติบโตไปข้างหน้าอีกเป็น 10-20 ปี 

โครงการพลังงานสะอาด หรือเรียกสั้นๆ ว่า CFP มูลค่าลงทุนประมาณ 4,825 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 158,404 แสนล้านบาท ถือเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ของภาคเอกชนในพื้นที่ EEC โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้วในเดือนพฤษภาคม 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 

thai oil ผลประกอบการ e1637850457694

ความสำคัญของโครงการ CFP คือ จะเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นของไทยออยล์ให้สูงขึ้น มูลค่าผลิตภัณฑ์สูงขึ้น ต้นทุนการผลิตต่ำลง และเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันกับโรงกลั่นอื่นๆ ในภูมิภาคได้ดียิ่งขึ้น เป็นการยกระดับโรงกลั่นไทยออยล์ที่ปัจจุบันก็มีกำลังการกลั่นน้ำมันและปิโตรเลียมใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่แล้ว ให้ทรงประสิทธิภาพขึ้นไปอีกขั้น  

นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนเพิ่มเติมในด้านโลจิสติกส์และสาธารณูปโภค เช่น โครงการขยายสถานีจ่ายน้ำมันทางรถ, โครงการขายท่าเทียบเรือ, โครงการย้ายอาคารสำนักงาน และสร้างถังน้ำมันดิบใหม่ เป็นต้น

thaioil info e1637850332469

สรุปข้อดีของโครงการ CFP ไทยออยล์

  1. เพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันโรงกลั่นไทยออยล์อายุกว่า 60 ปี
  2. เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยหน่วยเพิ่มคุณภาพน้ำมัน (RHCU) ที่สามารถแปลงน้ำมันเตาเป็นน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานที่มีมูลค่าสูง
  3. รองรับมาตรฐาน IMO 2020 และมาตรฐานยูโร 5
  4. กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อ Economies of Scale ทำให้มีอัตรากำไรที่สูงขึ้น
  5. สร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว 

เตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคทองของโรงกลั่น

ระยะหลังนี้ธุรกิจโรงกลั่นอาจจะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก จากแนวโน้มธุรกิจที่อ่อนตัวลง แม้ช่วงหลังของปี 2564 จะเริ่มกลับมาดีขึ้น แต่ก็ยังเป็นฐานที่ต่ำเมื่อเทียบกับช่วงยุคทอง อย่างไรก็ดี บทวิเคราะห์ด้านธุรกิจพลังงานคาดการณ์ว่าภายในปี 2567 อุตสาหกรรมโรงกลั่นจะกลับเข้าสู่ยุคทองอีกครั้ง และยาวไปจนสิ้นสุดทศวรรษ

สาเหตุหลักมาจากการไม่มีกำลังการผลิตใหม่เข้ามา ประกอบกับประเทศจีนจำกัดกำลังการกลั่นน้ำมันดิบไว้ที่ 20 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2568 หมายความว่าจะไม่มีโรงกลั่นใหม่หรือการขยายกำลังการผลิตอีก นอกเหนือจากโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาในปัจจุบัน ซึ่งโครงการ CPF ของไทยออยล์เป็นหนึ่งในไม่กี่โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่

ดังนั้น เมื่อเราดูไทม์ไลน์ก็จะพบว่าโครงการ CFP จะเริ่มเดินเครื่องดำเนินการผลิตก่อนปีของอุตสาหกรรมโรงกลั่น ประมาณ 1 ปี ซึ่งประจวบเหมาะพอดีกับเทรนด์การเติบโต รวมถึงค่าการกลั่น (GRM) ที่ทยอยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

thaioil ผลประกอบการ e1637850376269

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ของหุ้น TOP บริษัทมีรายได้จากการขาย 79,960 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 22,843 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และมีกำไรสุทธิ 2,063 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 188.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 715.3 ล้านบาท  

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน