Stock - Finance

กลุ่ม ปตท.เตรียม 8.6 แสนล้าน ลงทุน 5 ปี – 9 เดือนกำไรกว่า 8 หมื่นล้าน

แผนลงทุนปตท. กลุ่ม ปตท. เตรียมงบลงทุน 5 ปี 8.65 แสนล้าน ต่อลมหายใจเศรษฐกิจ ผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต นำไทยสู่สังคม คาร์บอนต่ำ  กำไรไตรมาส 3ปีนี้ อยู่ที่ 23,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 67.5 % รายได้ทุกกลุ่มธุรกิจเติบโตสูงขึ้น  เผย 9 เดือน กลุ่ม ปตท. นำเงินส่งรัฐ 1.05 ล้านล้านบาท  

แผนลงทุนปตท.

แผนลงทุนปตท. 5 ปี ลงทุน 865,000 ล้าน

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความพร้อมสนับสนุนนโยบายเปิดประเทศว่า กลุ่ม ปตท. ได้เตรียมแผนลงทุน 5 ปี รวม 865,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตามกรอบวิสัยทัศน์ Powering Life with Future energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังงานแห่งอนาคต ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (New S-Curve) ประกอบด้วยการลงทุนในพลังงานอนาคต (Future Energy) อาทิ พลังงานทดแทน ระบบการกักเก็บพลังงาน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ศึกษาการใช้พลังงานจากไฮโดรเจน และลงทุนนอกธุรกิจพลังงาน (Beyond) อาทิ ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (ยา อาหารและโภชนาการ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์) ต่อยอดธุรกิจปิโตรเคมีสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ปรับธุรกิจน้ำมัน ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล

แผนลงทุนปตท.

แผนลงทุนปตท.

แผนลงทุนปตท. นำไทยสู่สังคม คาร์บอนต่ำ 

พร้อมจัดตั้งคณะทำงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ กลุ่ม ปตท. (PTT Group Net Zero Task Force : GNTF) เพื่อวางกรอบเป้าหมายที่ชัดเจนในการยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศ เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ได้ในปี ค.ศ. 2065 ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23,652.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14,120.18 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.82 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.50 บาท

 กลุ่ม ปตท. รายได้หลายกลุ่มดีขึ้น ตามราคาตลาดโลก

โดยไตรมาส 3 ปี 2564 ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 558,888 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 2 ปี 2564 จำนวน 25,632 ล้านบาท หรือ 4.8% ส่วนใหญ่จากรายได้ของกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น และธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นตามราคาในตลาดโลก แม้ปริมาณขายลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธ์ุเดลต้า อีกทั้งรายได้ของกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้น โดยหลักจากราคาขายลูกค้าอุตสาหกรรมที่อ้างอิงราคา น้ำมันเตาที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจจัดหาและจัดจาหน่ายก๊าซฯ และจากราคาขายเฉลี่ยที่อ้างอิงราคาปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติ

ส่งผลให้ปตท.และบริษัทย่อย มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) 110,522 ล้านบาท ลดลง 2,644 ล้านบาท หรือ 2.3% จากไตรมาส 2/2564 โดยหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ลดลงของกลุ่มธุรกิจธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นตามปริมาณขายโดยรวมที่ลดลง จากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นของกลุ่มปตท. รวมถึงต้นทุนที่เพิ่มขี้นตาม Crude premium และราคาวัตถุดิบของปิโตรเคมีที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งยังมีผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงที่สูงขึ้น

ในส่วนของ ธุรกิจน้ำมันที่มีผลการดำเนินงานลดลง จากปริมาณขายที่ลดลง นอกจากนี้ กำไรจากสต็อกน้ำมันของกลุ่ม ปตท. ปรับลดลงประมาณ 1,400 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าในไตรมาสก่อน

แผนลงทุนปตท.

ผลการดำเนินงานของ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมปรับตัวดีขึ้น จากการขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ในไตรมาส 3 มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำตามสัดส่วนของปตท.โดยหลักจากการตัดจำหน่ายอะไหล่เสื่อมสภาพประมาณ 900 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิของปตท. และบริษัทย่อยในไตรมาส 3/2564 มีจำนวน 23,653 ล้านบาท ลดลง 925 ล้าน ลดลง 3.8% จากไตรมาส 2/2564 ที่ 24,578 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2564 เปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2563 ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย 558,888 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 175,289 ล้านบาท หรือ 45.7% จากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยรายได้ของกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจน้ำมันเพิ่มขึ้น จากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีในตลาดโลก รวมถึงรายได้ของธุรกิจสำรวจและ ผลิตปิโตรเลียมที่ปรับขึ้นตามราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ในไตรมาส 3/2564 ปตท.และบริษัทย่อยมี EBITDA เพิ่มขึ้น 43,057ล้านบาท หรือ 63.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 67,465 ล้านบาท โดยหลักจาก กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ตามผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจปิโตรเคมีจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี กับวัตถุดิบสายโอเลฟินส์ และอะโรเมติกส์ ที่ปรับตัวสูงขึ้น และปริมาณขายโดยรวมที่เพิ่มขึ้นสุทธิ กับผลการดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจการกลั่น ตามปริมาณขายที่ลดลง รวมทั้งขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้ แม้ว่าสต็อกน้ำมันของกลุ่มปตท. จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2,000 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่าไตรมาส 3/2563

แผนลงทุนปตท.

ในส่วนของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มีผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นตามปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น  จากการเขา้ซื้อโครงการโอมาน แปลง 61 ในเดือนมีนาคม 2564 และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานดีขึ้น จากธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติและ ธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ จากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นตามราคาอ้างอิง

 9 เดือน ปตท.และบริษัทย่อยกำไรสุทธิ กว่า 8 หมื่นล้าน

สำหรับผลการดำเนินงานของ ปตท. และบริษัทย่อยใน 9 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิ จำนวน 80,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 24,619 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากเกือบทุกกลุ่มธุรกิจตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวจากปีก่อน ประกอบกับ ปตท. สามารถบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการ (Operation) อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ดำเนินได้อย่างไม่ติดขัดแม้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้า-ส่งออก ขณะที่อุตสาหกรรมลักษณะเดียวกันในต่างประเทศบางแห่งต้องปิดตัวลง

ผลการดำเนินงานของ ปตท. และบริษัทย่อยมาจากการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายของกลุ่ม ปตท. โดยกำไรสุทธิของ ปตท. และบริษัทย่อยใน 9 เดือนแรกของปี 2564 มีสัดส่วนจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 33% เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ไม่ผันผวน ดำเนินการเพื่อความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 23% ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 22% จากการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรม และบริษัทย่อยอื่นๆ 13% สำหรับกลุ่มธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกมีสัดส่วนเพียง 9% ในสถานการณ์โควิด-19 ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน และช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนโดยชะลอราคาขายปลีกน้ำมันถึงแม้ว่าต้นทุนราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้น

แผนลงทุนปตท.

9 เดือนส่งรายได้เข้ารัฐ 1.05 ล้านล้านบาท 

ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.สามารถนำส่งเงินเข้ารัฐ สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2564 ทั้งในรูปแบบเงินปันผลและภาษีเงินได้ รวม 55,924 ล้านบาท หากนับตั้งแต่ปี 2544 ถึง 9 เดือนแรกของปี 2564 กลุ่ม ปตท. นำเงินส่งรัฐรวม 1.05 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า มุ่งดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ในปี 2564 จัดตั้งโครงการ Restart Thailand เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้และสร้างทักษะอาชีพ ผ่านการจ้างนักศึกษาจบใหม่ บัณฑิตว่างงานระดับ ปวช.- ปริญญาตรีในทุกภูมิภาค จำนวนกว่า 25,000 อัตรา

นอกจากนี้ จากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ กลุ่ม ปตท. ได้นำทีมพนักงานจิตอาสา “PTT Group SEALs” ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ มอบถุงยังชีพกว่า 15,000 ถุง พร้อมอุปกรณ์จำเป็น ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนเดินหน้าแบ่งเบาภาระภาครัฐในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 และจัดตั้งหน่วยคัดกรองโควิด-19 และโรงพยาบาลสนามครบวงจร ในโครงการลมหายใจเดียวกัน รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,800 ล้านบาท พร้อมเปิดสายด่วน 1745 “End-To-End Mobile@1745” มีพนักงานจิตอาสาจะคอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และส่งรถพยาบาลไปรับถึงที่พัก เพื่อสนับสนุนนโยบายเปิดประเทศ ให้เราผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

แผนลงทุนปตท.

กลุ่ม ปตท.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight