ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (5 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานสูงขึ้น ภายใต้การนำของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขานรับราคาน้ำมัน ที่พุ่งทะลุ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,365.87 จุด ทะยานขึ้น 362.95 จุด หรือ 1.07% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,356.87 จุด ทะยานขึ้น 56.41 จุด หรือ 1.31% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,467.61 จุด พุ่งขึ้น 212.13 จุด หรือ 1.49%
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้ โดยราคาหุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 1% หลังจากทรุดตัวลง 5% เมื่อวานนี้ ขณะที่การให้บริการของเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และ วอทส์แอป ประสบปัญหาระบบล่มทั่วโลก
ขณะหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เช่น ธุรกิจเรือสำราญ สายการบิน ค้าปลีก และธนาคาร ต่างดีดตัวขึ้น เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นเช่นกัน ตามการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน ขานรับผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ที่ตลาดไนเม็กว์ เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.60% สู่ระดับ 78.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 61.9 ในเดือนกันยายน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 60.0 จากระดับ 61.7 ในเดือนก่อนหน้านั้น แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ แม้ว่าการจ้างงานชะลอตัวลง โดยดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่
นักลงทุนยังจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ (8 ต.ค.) ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ในการพิจารณาการปรับลดวงเงิน QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 450,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 4.2% สู่ระดับ 7.33 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.05 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ การนำเข้าพุ่งขึ้น 1.4% สู่ระดับ 2.87 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 2.14 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562
นอกจากนี้ สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 10.8% สู่ระดับ 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยหากพิจารณาตั้งแต่ต้นปี 2564 สหรัฐขาดดุลการค้ามากที่สุดต่อประเทศคู่ค้า 5 ชาติ ได้แก่ จีน เม็กซิโก เวียดนาม เยอรมนี และญี่ปุ่น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เศรษฐกิจไทยในเดือนส.ค.วูบ จากผลกระทบจากโควิด-19 ทั้ง ‘ใน-ต่าง’ ประเทศ
- วิตก ‘เศรษฐกิจ-สังคม’ เมียนมาแย่หนัก หลัง ‘เงินจ๊าด’ อ่อนค่ากว่า 60% ในเดือนเดียว
- ‘เอดีบี’ หั่นคาดการณ์ ‘เศรษฐกิจเอเชีย’ ปี 64 เหลือ 7.1% เหตุวิตกผลกระทบโควิด