World News

วิตก ‘เศรษฐกิจ-สังคม’ เมียนมาแย่หนัก หลัง ‘เงินจ๊าด’ อ่อนค่ากว่า 60% ในเดือนเดียว

เงินจ๊าดเมียนมา อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ และร่วงมาแล้วกว่า 60% นับแต่ต้นเดือนกันยายน จุดชนวนความวิตก ถึงภาวะไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมที่หนักกว่าเดิม หลังจากที่ย่ำแย่อยู่แล้ว จากเหตุรัฐประหาร

เมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ของเงินจ๊าด ต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงไปเคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 2,500-2,700 จ๊าดต่อดอลลาร์ ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น อัตราแลกเปลี่ยนเงินจ๊าด เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับประมาณ 1,400 จ๊าดต่อดอลลาร์

เงินจ๊าด

ส่วนในวันนี้ (29 ก.ย.) เงินจ๊าดยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อวานนี้ โดยแหล่งข่าวในตลาดค้าเงิน บอกด้วยว่า ในขณะนี้ ผู้คนพากันเข้าซื้อเงินดอลลาร์ และไม่มีคนที่อยากขายเงินดอลลาร์ออกมา สถานการณ์ที่ผลักดันให้เงินจ๊าดอ่อนค่าลงอย่างหนัก

เดือนเดียว เงินจ๊าดอ่อนค่ากว่า 60%

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเป็นต้นมา ค่าเงินจ๊าดของเมียนมา อ่อนค่าลงไปแล้วกว่า 60%  เนื่องจากราคาอาหาร และน้ำมัน พุ่งสูงขึ้น ในระบบเศรษฐกิจที่ถดถอยหลังเกิดเหตุรัฐประหาร

นายริชาร์ด ฮอร์ซีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเมียนมา ของ กลุ่มวิกฤตการณ์นานาชาติ (International Crisis Group) องค์กรไม่แสวงกำไร ที่ศึกษาความขัดแย้งระหว่างประเทศ กล่าวว่า ค่าเงินจ๊าดที่อ่อนตัว จะทำให้บรรดานายพลของเมียนมาสั่นสะเทือน เนื่องจากพวกเขาให้ความสำคัญกับอัตราค่าเงินจ๊าด ในฐานะตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ ที่เป็นภาพสะท้อนของพวกเขา

ทางด้านผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราของเมียนมา ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราของบริษัทนอร์เทิร์น บรีซ เอกซ์เชนจ์ เซอร์วิส ทุกสาขาปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากค่าเงินจ๊าดที่ผันผวนในตอนนี้

ก่อนหน้านี้ รายงานของธนาคารโลกที่เผยแพร่ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของเมียนมาจะหดตัวลง 18% ในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั้งยังระบุว่า เมียนมาจะเผชิญกับอัตราจ้างงานที่หดตัวต่ำสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะมีประชากรยากจนเพิ่มมากขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo