Stock

‘ดาวโจนส์’ ขยับตัวช่วงแคบ ตลาดรอลุ้น ‘เงินเฟ้อ’ แถลงการณ์ ‘พาวเวล’

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (12 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดัชนีหุ้นหลัก ๆ ปรับตัวในช่วงแคบ ๆ เนื่องจากนักลงทุน พากันรอดูสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ ทั้งผลประกอบการภาคธุรกิจ ตัวเลขเงินเฟ้อ และถ้อยแถลงด้านเศรษฐของ “เจอโรม พาวเวล” ประธานเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,957.89 จุด ปรับขึ้นมา 87.73 จุด หรือ 0.25% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,378.94 จุด ขยับขึ้น 9.39 จุด หรือ 0.21% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,710.82 จุด บวก 8.90 จุด หรือ 0.06%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (9 ก.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกับดัชนีเอสแอนด์พี 500 และ แนสแด็กโดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

Stocksbitcoin ๒๑๐๖๐๔

นักลงทุนมุ่งความสนใจไปยังการรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่จะเริ่มรายงานผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.)  ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500  จะมีกำไรในไตรมาส 2 พุ่งขึ้น 65% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2552

บริษัทจำนวน 66 แห่งในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ได้ออกรายงานคาดการณ์ผลประกอบการที่เป็นบวกในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่บริษัท FactSet ได้เริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าว

นอกจากนี้ คาดว่าหุ้นทั้ง 11 กลุ่มในตลาด จะมีผลประกอบการเพิ่มมากขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน อุตสาหกรรม และการเงิน ขานรับการเปิดเศรษฐกิจใหม่ หลังจากที่มีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันอังคาร และวันพุธตามลำดับ รวมทั้งยอดค้าปลีกในวันศุกร์

ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปี ว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส โดยเขาจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 14 กรกฎาคม เวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐ และต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 15 กรกฎาคม เวลา 09.30 น.ตามเวลาสหรัฐ

ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ประธานเฟดมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรสปีละ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในเดือนก.พ. และอีกครั้งในเดือนก.ค.

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

การแถลงของนายพาวเวลในสัปดาห์นี้ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากเขาอาจส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากที่รายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนมิถุนายน ระบุว่า กรรมการเฟดได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงิน QE พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมถึง 1 ปี และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปีดังกล่าว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มปรับลด QE ในเดือนมกราคม 2565 โดยจะปรับลดวงเงิน QE เดือนละ 20,000 ล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่เฟดดำเนินมาตรการ QE วงเงิน 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน ซึ่งจะทำให้เฟดใช้เวลา 6 เดือนในการปรับลด QE จนเหลือ 0 หมายความว่าเฟดจะยุติการทำ QE โดยสิ้นเชิงในช่วงกลางปี 2565 และเฟดจะพักการดำเนินการเป็นเวลา 1 ปีเพื่อให้ตลาดปรับตัว ก่อนที่จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo