Stock

‘COM7’ กับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ‘AION’

ส่อง growth engine ตัวใหม่ของ COM7 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า AION คาดผลดีในระยะยาว ช่วยหนุนรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นในอนาคต

เมื่อพูดถึงหุ้นค้าปลีกสินค้าไอทีของเมืองไทย เชื่อว่าใครๆ ก็คงนึกถึง COM7 หรือ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีแบรนด์ร้านค้าชั้นนำมากมาย อาทิ BaNANA, Studio7, BKK และ KingKong Phone ฯลฯ ตลอดจนธุรกิจบริการหลังการขาย ได้แก่ ศูนย์ซ่อมและบริการสินค้า Apple ในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “iCare” และร้านให้บริการ TRUE Shop เป็นต้น

แต่ว่าในช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา COM7 ได้แตกไลน์ธุรกิจใหม่ โดยหันไปรุกเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ร่วมกับบริษัท GAC Group บริษัทรถยนต์สัญชาติจีน ก่อตั้งบริษัทร่วมทุนที่ชื่อว่า “Gold Integrate” ซึ่ง COM7 ถือหุ้น 40% ส่วน GAC Group ถือหุ้น 60%

หนุนรายได้ COM7

ทั้งนี้ Gold Integrate จะเข้ามาดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า EV ของแบรนด์ AION ซึ่งประเดิมเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกอย่าง Aion Y Plus ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 ขณะที่ในปี 2567 มีรายงานว่าจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอีกหลายรุ่น ด้วยการเปิดตัวโรงงานแห่งใหม่บริเวณเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จังหวัดระยอง

หนุนรายได้

ศักยภาพของ GAC Group ที่จะผนึกกับ COM7 หนุนรายได้

GAC Group หรือ Guangzhou Automotive Group เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่มียอดขายอันดับ 4 ในจีน แต่ในช่วงที่ผ่านมา GAC หันมารุกธุรกิจ EV มากขึ้น โดยมีแบรนด์เรือธงอย่าง AION นั่นเอง ซึ่งมียอดขายเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียง BYD เท่านั้น

สำหรับกำลังการผลิตของ GAC Group ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2.48 ล้านคันต่อปี โดยในจำนวนนี้ แบ่งออกเป็นรถยนต์น้ำมันดั้งเดิม 68.7% รถยนต์ไฮบริด 18.6% และรถยนต์ไฟฟ้า 12.7% จุดที่น่าสนใจคือแม้ยอดของรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นสัดส่วนที่น้อยสุด แต่ว่าเติบโตขึ้นประมาณ 2 เท่า

แปลว่าการรุกเข้าสู่ตัวแทนขายรถ EV ของ COM7 ด้วยการผนึกกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก จึงเป็นผลดีในระยะยาว และช่วยหนุนรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ทั้งนี้ GAC Group ตั้งเป้าหมายยอดขายรถยนต์ Aion ปี 2567 ไว้ที่ 7,000 คัน

บทวิเคราะห์ บล. เมย์แบงก์ เปิดเผยว่าภายใต้สมมุติฐานที่ว่าปี 2568 ทาง Aion จะมียอดขาย 5,000-7,000 คัน ราคาขายเฉลี่ย 900,000 บาทต่อคัน และอัตรากำไรสุทธิ 3-4% ดังนั้นธุรกิจนี้จะมีอัพไซด์ต่อ COM7 ประมาณ 2-3%

ขยับถือหุ้น Double 7 เป็น 99%

นอกจากนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 ทาง COM7 แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 20,000 หุ้น ของบริษัท ดับเบิ้ลเซเว่น จำกัด (DOU7) (บริษัทย่อยของบริษัท) จากบริษัท สบาย ฟูลฟิลเมนท์ จำกัด (SBFFM) ซึ่งบริษัทย่อยของ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY

โดยวิธีการชำระด้วยหุ้นของ SABUY จำนวน 67,999,998 หุ้น (สัดส่วน 3.85%) มูลค่า 1,360 ล้านบาท ภายหลังการซื้อหุ้นดังกล่าว COM7 จะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน Dobble 7 เพิ่มขึ้นเป็น 99% จากเดิมอยู่ที่ 60%

สำหรับ Double 7 เป็นผู้บริหารจัดการร้านค้า TRUE Shop จำนวน 123 สาขา โดย บล. เมย์แบงก์ มองว่ามีอัพไซด์ต่อกำไรหลักเพิ่มขึ้น 1% หรือประมาณ 98 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งอาจจะมีร้านค้าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นในอนาคต หลังจากที่ TRUE ควบรวมกิจการกับ DTAC เพราะขณะนี้ DTAC มีร้านที่บริหารจัดการอยู่ที่ 80 แห่ง

หนุนรายได้
ภาพ: https://www.aionauto.com/vehicles/aion_car_introduce?alias=aion_y_plus

จังหวะซื้อ รับแนวโน้มเติบโตและราคาถูก

บล. เมย์แบงก์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น COM7 โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 32.50 บาทต่อหุ้น เพื่อรับแนวโน้มเติบโตดีจากอัพไซด์ที่เพิ่มเข้ามา ขณะที่ valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ซื้อขายที่ P/E ล่วงหน้า 1 ปีที่ 14 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 23 เท่าถึง 39%

โดยอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรนั้นมาจาก

1. อาจมีร้านค้า TRUE ภายใต้การบริหารของ Double 7 เพิ่มขึ้น

2. ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Aion ส่วนดาวน์ไซด์ต่อประมาณการคือไม่สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งได้ ท่ามกลางอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตช้า

หนุนรายได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน