Stock

วิเคราะห์ดีล ‘COM7’ จับมือ ‘BDMS’ รุกตลาดร้านขายยา

วิเคราะห์ดีล “COM7” จับมือ “BDMS” รุกตลาดร้านขายยา  หลัง MOU ร่วมกัน ตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่สำหรับประกอบธุรกิจร้านขายยาขนาดใหญ่ในรูปแบบ Stand Alone ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า 

หุ้น COM7 หรือ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) คือ ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไอทีในประเทศไทย โดยมีแบรนด์ชื่อดังมากมาย เช่น Banana, Studio7, BKK Mobile, iCare, KingKong Phone และ True Shop by Com7

หุ้น BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) คือ ผู้นำในธุรกิจบริการโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย โดยมีโรงพยาบาลในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลเปาโล

ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา มีการประกาศดีลระหว่าง 2 บริษัทนี้เกิดขึ้น โดยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า COM7 ได้อนุมัติให้บริษัทย่อยเข้าทําบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) ในการร่วมลงทุนกับ บริษัท รอยัล บางกอกเฮ็ลธ์แคร์ จํากัด (RBH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BDMS เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ สำหรับประกอบธุรกิจร้านขายยา

COM7

เบื้องต้นบริษัทร่วมทุนดังกล่าว จะมีทุนจดทะเบียนจํานวน 200 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจํานวน 2 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยจะดำเนินธุรกิจร้านขายยาขนาดใหญ่ในรูปแบบ Stand Alone และตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า คาดว่าจะสามารถเปิดดําเนินการภายในปี 2565

COM7 จับมือ BDMS รุกธุรกิจร้านยา 

แหล่งที่มาของเงินทุนในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้ จะมาจากกระแสเงินสดจากการดําเนินกิจการ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการดําเนินงานของบริษัท โดยโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทร่วมทุน เป็นดังนี้

-บริษัท รอยัล บางกอกเฮ็ลธ์แคร์ จํากัด (RBH) บริษัทย่อยของ BDMS ถือหุ้น 1.2 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 60%

-บริษัทย่อยของ COM7 ซึ่งอยู่ระหว่างดําเนินการจัดตั้ง ถือหุ้น 8 แสนหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40%

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ COM7 เปิดเผยถึงดีลนี้ว่า ทางบริษัทมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจร่วมกับ BDMS เพื่อขยายไปสู่โมเดลธุรกิจ “ร้านขายยา” เนื่องจากประเทศไทยกำลังถูกผลักดันให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ (Medical) และตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนก็หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับการก้าวเข้าสู่สังคมของผู้สูงอายุ ดังนั้น การดำเนินธุรกิจนี้ จะช่วยสร้างโอกาสการเติบโตได้อย่างแน่นอน

ซึ่งจะเป็นการผสานความเชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์และธุรกิจยาของ BDMS และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและค้าปลีกของ COM7 โดยจะเป็นหัวเรือสำคัญในการนำอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนเรื่องของสุขภาพเข้าไปอยู่ในร้านขายยาในประเทศไทย

ทั้งนี้ บล. กสิกรไทย หรือ KSecurities ระบุว่า ภาพรวมตลาดยาในประเทศไทย ปี 2562 อยู่ที่ 35,500 ล้านบาท คาดว่าจะมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 5-7% ต่อปี ซึ่งตลาดค่อนข้างกระจายตัว จากส่วนแบ่งเครือข่ายร้านขายยาคิดเป็นสัดส่วนแค่ 15-20% เท่านั้นของจำนวนร้านขายยาทั้งหมดในประเทศ

ผู้นำในกลุ่มเครือข่ายร้านขายยา ประกอบด้วย
1.  Watsons  ประมาณ 500 สาขา
2.  Boots ประมาณ 277 สาขา
3.  Fascino ประมาณ 102 สาขา
4.  ร้านขายยากรุงเทพ ประมาณ 101 สาขา

COM7

 

อ้างอิงตัวเลขในปี 2563 สำรวจพบว่ารายได้เฉลี่ยของร้านขายยา 1 แห่ง นั้นอยู่ที่ราว 19 ล้านบาทต่อปี โดยนักวิเคราะห์มองว่าปัจจัยหนุนของดีลนี้ คือ 1. โอกาสในการรวมตลาดร้านขายยา 2.  ความชำนาญในธุรกิจค้าปลีกของ COM7 และ 3. ความประหยัดต่อขนาดของ BDMS

โดยส่วนตัวมองว่าการร่วมทุนรุกธุรกิจร้านขายยาของ COM7 กับ BDMS ครั้งนี้ ถือว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจ เพราะการนำจุดแข็งด้านเทคโนโลยีและสุขภาพของทั้งคู่มาผนึกไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เป็นเทรนด์แห่งอนาคต อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสการเติบโตใหม่ๆ และเพิ่มความหลากหลายด้านผลิตภัณฑ์อีกด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน