Stock

ทุจริตหุ้น STARK คืบ ดีเอสไอพบเส้นทางเงิน 1 หมื่นล้าน ย้อนกลับเข้าบริษัท

ดีเอสไอ แถลงคดีทุจริตหุ้น STARK พบเส้นทางเงินโอน 1 หมื่นล้าน ย้อนกลับเข้าบริษัท เพื่อชำระหนี้เจ้าหนี้การค้าและยักย้ายถ่ายเทเข้าบัญชีตนเอง  

พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) แถลงความคืบหน้ากรณีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

หุ้น STARK

พันตำรวจตรี ยุทธนา กล่าวว่า หลังจากรับ กรณีการทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นคดีพิเศษ (คดีพิเศษที่ 57/2566) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 พบว่า มีผู้เสียหายทั้งสิ้นจำนวน 4,704 ราย มูลค่าความเสียหายจำนวนกว่า 1.477 หมื่นล้านบาท

สำหรับคดีนี้มีผลกระทบต่อตลาดทุนเป็นอย่างมาก ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษโดยกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน เริ่มทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ เมื่อ 20 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา มีพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนเอง

ล่าสุด ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ทางคดีมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา รวม 11 คน ในความผิดตาม พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา และฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

หุ้น STARK

วานนี้ (8 ธ.ค. 2566) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษแล้ว โดยทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 11 ราย ในความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยมีเอกสารพยานหลักฐานทั้งสิ้นจำนวน 22 ลัง 140 แฟ้ม 52,968 แผ่น

นอกจากการดำเนินคดีอาญาดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังพบว่ามีการนำเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท โอนเข้ากลุ่มบริษัทของผู้ต้องหาเพื่อไปชำระหนี้เจ้าหนี้การค้า รวมทั้งยักย้ายถ่ายเทเข้าบัญชีส่วนตัวอีกส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้ ปอศ.ได้ส่งข้อมูลให้ สำนักงาน ปปง. พิจารณาดำเนินการติดตามยึดทรัพย์สินดังกล่าว เพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 49 วรรคท้าย ต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo